จากรณี เมื่อ วันที่ 04 พ.ย.68 ที่ผ่านมา นายสมชาย นาคทัพ นายกอบต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี พร้อม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านกะเหรียง มีบ้านพักอาศัย 30 หลังคาเรือน ประชากร 100กว่าคน ทีอยู่กลางหุบเขา หมู่ 3 บ้านละว่า ต.สุขฤทัย อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ซึ่งถนนทีสัญจรไปมาเข้าออกหมู่บ้าน อยู่บนฝายกั้นน้ำอีซา ที่หลวงพ่อวิชา มาสร้างไว้นานหลายสิบปี ได้ถูกกระแสน้ำป่า ซัดจนฝายกั้นน้ำพังเสียหาย ทำให้ชาวบ้านกะเหรียงทีอยู่ด้านในหุบเขา ไม่มีทางเข้าออกหมู่บ้าน จากเหตุฝนตกต่อเนื่องหลายวัน และน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ฝายและสะพานในพื้นที่ ได้รับความเสียหาย การสัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้านเชื่อมต่อ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ได้เข้าช่วยเหลือ เบื้องต้นโดยได้ โรยตัวโหนสลิง เพื่อข้ามไปอีกฝั่ง ฝ่าสายน้ำที่เชี่ยวไหลแรง ช่วงบริเวณสะพานสัญจรหัก จนท.ต้องเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยนำอาหารและเครื่องดื่มอุปโภคบริโภคไปให้กับชาวบ้าน ที่ไม่สามารถสัญจรได้ ในพื้นที่อีซ่า หมู่3 บ้านละว้า
เมื่อเวลา 16.30 น. ช่วงเย็นของ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณทางข้ามฝายอีซ่า(หรือชาวบ้านเรียกฝายหลวงพ่อวิชา ) หลังเกิดเหตุคอสะพานข้ามแม่น้ำขาดจากอิทธิพลของน้ำป่าหลาก ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยมีนายทนงศักดิ์ สุวรรณเตมีย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี นางสาวบุษราภรณ์ ปานคง นายอำเภอลานสัก องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 15 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา รวมถึงส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่เพื่อวางแผนและดำเนินการแก้ไขปัญหา จากการหารือในเบื้องต้น มีมติให้ดำเนินการติดตั้งสะพานแบรี่ชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในพื้นที่สามารถสัญจรได้ตามปกติ พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมเพื่อวางแผนซ่อมแซมถาวรในระยะต่อไป
นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีความเสียหายบริเวณฝายกั้นน้ำระหว่างพื้นที่สองตำบลในอำเภอห้วยคต และอำเภอลานสัก ส่งผลให้การสัญจรและการขนส่งสิ่งของของประชาชนได้รับผลกระทบ ซึ่งในวันจันทร์ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทั้ง สองพื้นที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และได้ดำเนินการแก้ไขเบื้องต้นโดยการพาด สายสลิง เพื่อใช้ขนส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นข้ามฝั่งไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ต่อมาในวันอังคาร หน่วยงานก่อสร้างต่างๆ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อพิจารณาวิธีดำเนินการซ่อมแซมเส้นทางให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยพบอุปสรรคหลายประการ เช่น เส้นทางเข้าพื้นที่มีขนาดแคบ และมีความลาดชันสูง ในวันพุธ ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานีในการปรับปรุงถนนบริเวณทางเข้า และบริเวณที่ถูกน้ำกัดเซาะ เพื่อให้รถสามารถเข้าไปในพื้นที่ได้สะดวกมากขึ้น และในวันพรุ่งนี้ (วันพฤหัสบดี) จะมีการขนย้ายสะพานแบรี่ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าพื้นที่เพื่อประกอบติดตั้งเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างสองฝั่ง การประกอบสะพานคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4–5 วัน เนื่องจากภูมิประเทศมีความลาดชันและไม่ราบเรียบ ทั้งนี้ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 15 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จะเข้าร่วมปฏิบัติงานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในการติดตั้งสะพานดังกล่าว ในระหว่างดำเนินการ หน่วยงานท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายอำเภอในพื้นที่ ยังคงดูแลการจัดส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายใน 5 วัน ประชาชนจะสามารถกลับมาใช้เส้นทางสัญจรได้ตามปกติ พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมเพื่อวางแผนซ่อมแซมถาวรในระยะต่อไป
ด้านชาวบ้านกะเหรียงหมู่ 3 บ้านละว่า ได้กล่าวหลังจากถนนบนหลังฝายอีซาได้ถูกน้ำป่าซัดขาด ทำให้ถนนที่ชาวบ้านสัญจรบน ไม่สามารถมีทางเข้าออกได้ โดยช่วงนี้เด็กนักเรียนก็ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ พืชผลทางการเกษตร และผู้ป่วย โดยจำเพราะช่วงนี้มีคนท้องที่จะออกเดือนนี้ก็ออกไม่ได้ ซึ่งชาวทั้งหมดติดเกาะ หลังจากทราบว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้นำสะพานแบริ่ง มาสร้างให้ชาวบ้านสัญจรก่อน ต่างสร้างความดีใจ และขอขอบคุณผู้ว่า และหัวหน้าส่วนราชการ ดังกล่าว
@chaijexu ผู้ว่าฯจ.อุทัยธานี รุดช่วยชาวบ้านกะเหรี่ยง 30 หลังคาเรือน 100 กว่าชีวิต ติดเกาะ เร่งวางสะพานแบริ่ง นำชาวบ้าน สินค้าเกษตร เด็กนักเรียน ผู้ป่วยออกจากพื้นที่ จากรณี เมื่อ วันที่ 04 พ.ย.68 ที่ผ่านมา นายสมชาย นาคทัพ นายกอบต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี พร้อม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านกะเหรียง มีบ้านพักอาศัย 30 หลังคาเรือน ประชากร 100กว่าคน ทีอยู่กลางหุบเขา หมู่ 3 บ้านละว่า ต.สุขฤทัย อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ซึ่งถนนทีสัญจรไปมาเข้าออกหมู่บ้าน อยู่บนฝายกั้นน้ำอีซา ที่หลวงพ่อวิชา มาสร้างไว้นานหลายสิบปี ได้ถูกกระแสน้ำป่า ซัดจนฝายกั้นน้ำพังเสียหาย ทำให้ชาวบ้านกะเหรียงทีอยู่ด้านในหุบเขา ไม่มีทางเข้าออกหมู่บ้าน จากเหตุฝนตกต่อเนื่องหลายวัน และน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ฝายและสะพานในพื้นที่ ได้รับความเสียหาย การสัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้านเชื่อมต่อ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ได้เข้าช่วยเหลือ เบื้องต้นโดยได้ โรยตัวโหนสลิง เพื่อข้ามไปอีกฝั่ง ฝ่าสายน้ำที่เชี่ยวไหลแรง ช่วงบริเวณสะพานสัญจรหัก จนท.ต้องเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยนำอาหารและเครื่องดื่มอุปโภคบริโภคไปให้กับชาวบ้าน ที่ไม่สามารถสัญจรได้ ในพื้นที่อีซ่า หมู่3 บ้านละว้า เมื่อเวลา 16.30 น. ช่วงเย็นของ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณทางข้ามฝายอีซ่า(หรือชาวบ้านเรียกฝายหลวงพ่อวิชา ) หลังเกิดเหตุคอสะพานข้ามแม่น้ำขาดจากอิทธิพลของน้ำป่าหลาก ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยมีนายทนงศักดิ์ สุวรรณเตมีย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี นางสาวบุษราภรณ์ ปานคง นายอำเภอลานสัก องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 15 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา รวมถึงส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่เพื่อวางแผนและดำเนินการแก้ไขปัญหา จากการหารือในเบื้องต้น มีมติให้ดำเนินการติดตั้งสะพานแบรี่ชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนในพื้นที่สามารถสัญจรได้ตามปกติ พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมเพื่อวางแผนซ่อมแซมถาวรในระยะต่อไป นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีความเสียหายบริเวณฝายกั้นน้ำระหว่างพื้นที่สองตำบลในอำเภอห้วยคต และอำเภอลานสัก ส่งผลให้การสัญจรและการขนส่งสิ่งของของประชาชนได้รับผลกระทบ ซึ่งในวันจันทร์ที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทั้ง สองพื้นที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และได้ดำเนินการแก้ไขเบื้องต้นโดยการพาด สายสลิง เพื่อใช้ขนส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นข้ามฝั่งไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ต่อมาในวันอังคาร หน่วยงานก่อสร้างต่างๆ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อพิจารณาวิธีดำเนินการซ่อมแซมเส้นทางให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ โดยพบอุปสรรคหลายประการ เช่น เส้นทางเข้าพื้นที่มีขนาดแคบ และมีความลาดชันสูง ในวันพุธ ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานีในการปรับปรุงถนนบริเวณทางเข้า และบริเวณที่ถูกน้ำกัดเซาะ เพื่อให้รถสามารถเข้าไปในพื้นที่ได้สะดวกมากขึ้น และในวันพรุ่งนี้ (วันพฤหัสบดี) จะมีการขนย้ายสะพานแบรี่ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าพื้นที่เพื่อประกอบติดตั้งเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างสองฝั่ง การประกอบสะพานคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 4–5 วัน เนื่องจากภูมิประเทศมีความลาดชันและไม่ราบเรียบ ทั้งนี้ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 15 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จะเข้าร่วมปฏิบัติงานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในการติดตั้งสะพานดังกล่าว ในระหว่างดำเนินการ หน่วยงานท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายอำเภอในพื้นที่ ยังคงดูแลการจัดส่งอาหารและสิ่งของจำเป็นให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายใน 5 วัน ประชาชนจะสามารถกลับมาใช้เส้นทางสัญจรได้ตามปกติ พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมเพื่อวางแผนซ่อมแซมถาวรในระยะต่อไป ด้านชาวบ้านกะเหรียงหมู่ 3 บ้านละว่า ได้กล่าวหลังจากถนนบนหลังฝายอีซาได้ถูกน้ำป่าซัดขาด ทำให้ถนนที่ชาวบ้านสัญจรบน ไม่สามารถมีทางเข้าออกได้ โดยช่วงนี้เด็กนักเรียนก็ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ พืชผลทางการเกษตร และผู้ป่วย โดยจำเพราะช่วงนี้มีคนท้องที่จะออกเดือนนี้ก็ออกไม่ได้ ซึ่งชาวทั้งหมดติดเกาะ หลังจากทราบว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัด ได้นำสะพานแบริ่ง มาสร้างให้ชาวบ้านสัญจรก่อน ต่างสร้างความดีใจ และขอขอบคุณผู้ว่า และหัวหน้าส่วนราชการ ดังกล่าว ภาพ-ข่าว สมชาย พัสกุล สมาคมสื่อมวลชนอุทัยธานี
♬ เสียงต้นฉบับ – TONGJUDKADHAD NEWS – TONGJUDKADHAD NEWS
ภาพ-ข่าว สมชาย พัสกุล สมาคมสื่อมวลชนอุทัยธานี
