จากการประชุมเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ปทุม ที่มี นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นประธาน โดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้สอบถามกรมชลประทาน เรื่องเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ท่อ 52นิ้วของกรมชลประทาน ที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองสาม หมู่ 16 ว่าเหตุใดถึงไม่สามารถใช้งานได้ และถ้าเครื่องสูบน้ำเสียทำไม่ไม่บอกทั้งที่รู้ตั่งแต่ช่วงเช้า ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ มากกว่า 3,000 ครัวเรือน ได้พร้อมทั้งอยากให้ทุกหน่วยงานสื่อสาร ประสานงานกันในการดำเนินการต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบกับประชาชน เพราะ เหตุการณ์นี้ มีความคล้ายกับสถานการณ์เมื่อปี 2565 เป็นอย่างมากซึ่งทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งไม่อยากจะให้เกิดเกิดขึ้นอีก

เวลา 11.30 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันน้ำท่วม ชั่วคราว เทศบาลเมืองคลองหลวง (ลานอเนกประสงค์วัดแสงสรรค์ จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี พร้อมด้วย นางสาวอภิสรา เกษอินทร์ นายอำคลองหลวง นางสาวพรปริญญา ศรีจันทร์ สมาชิกสภา อบจ.เขตเลือกตั้งที่ 5 อ.คลองหลวง ลงพื้นที่ให้กำลังใจจิตอาสา และเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองคลองหลวง ที่กำลังบรรจุกระสอบทราบเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม โดยมี นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองคลองหลวง ให้การต้อนรับ

จากสถานการณ์ ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และ ปัญหาเครื่องสูบน้ำ ที่บริเวณคลองสาม ม.16 เสียทำให้ ในหลายพื้นที่ เกิดวิกฤตน้ำท่วม ทำให้ เทศบาลเมืองคลองหลวง ต้องรับมือสถานการณ์น้ำท่วม และเตรียมกำลังพลอุปกรณ์ เช่น กระสอบทรายและเครื่องสูบน้ำ พร้อม ลงพื้นที่ติดตามเฝ้าระวังจากเหตุการณ์ ปริมาณน้ำในคลองสองมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น ทางเทศบาลเมืองคลองหลวงได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันน้ำท่วม ชั่วคราว เทศบาลเมืองคลองหลวง และเร่งกรอกกระสอบทรายให้พร้อมสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองคลองหลวง

ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้ฝากให้ประชาชนเฝ้าระวังสถาการณ์น้ำในช่วงระหว่างวันที่ 6-11 พฤศจิกายน ซึ่งคาดว่าจะมีประมาณฝนที่ตกหนัก ประกอบกับน้ำทะเลหนุน ทำให้การระบายน้ำลงสู่แม่น้เจ้าพระยาเป็นไปได้ยากมากขึ้น อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนเฝ้าติดตามข่าวจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด และพื้ที่ตรงไหนประสบปัญหา ให้รีบดำเนินการประสานไปยังหน่วยงานในพื้นที่ นอกจากนี้ยังฝากถึง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ กรมชลประทาน และ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ กรมชลประทาน เวลาจะทำอะไรควรประสานกันไม่ใช่ว่าทาง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตเหนือ เปิดประตูระบายน้ำขึ้น 1.5 เมตร แต่ทาง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ ไม่ทราบเรื่องทำให้ไม่สามารถรับมือกับน้ำที่ลงมาไม่ทัน ประกอบกับฝนที่ตกหนัก แถมเครื่องสูบน้ำ คลองสามหมู่ 16 ที่จะสูบน้ำออกคลองระพีพัฒน์เสียอีก ทำให้ มีประชาชนในจังหวัดปทุมธานี เดือดร้อนกว่า 3000 หลังคาเรือน ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้