วันที่ 15 ต.ค. 68 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด , นางวาริน วีระสุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่บริเวณ ซ.ประเสริฐอิสลาม 19 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจาก น.ส.ญาณี (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ผู้เป็นแม่ ว่าลูกสาว คือ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี ถูกปู่ (ไม่ใช่ปู่แท้ๆ) อายุ 70 ปี ล่วงละเมิดทางเพศมานานกว่า 1 ปี ซ้ำร้ายพ่อรับรู้สั่งห้ามบอกใคร ลูกทนไม่ไหวจึงโทรร้องไห้และเล่าความจริงให้แม่ฟัง

ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี กล่าวว่า ปู่เริ่มก่อเหตุตั้งแต่ตนอายุเพียง 9 ขวบ ล่าสุดคือตอนที่ปิดเทอม ป.5 เทอม 2 หลังจากนั้นตนได้ย้ายบ้านมาอยู่กับคุณพ่อ ซึ่งทุกครั้งที่ปู่ก่อเหตุจะอาศัยจังหวะที่ย่าออกไปซื้อของหรือไปหาหมอที่โรงพยาบาล บางครั้งก็เข้ามาหาประมาณช่วงตี 2 ตี 3 ขณะที่ตนนอนหลับ พอตนเริ่มรู้สึกตัวจึงดิ้น ขัดขืน ปู่ก็จะต่อว่าตนจะดิ้นทำไมนักหนา ตนไม่กล้าเล่าให้ย่าฟังเนื่องจากกลัวโดนตีและคิดว่าย่าคงไม่เชื่อ และถูกปู่ขู่ไว้ว่าถ้าไปบอกใครจะไล่ออกจากบ้าน นอกจากนี้ตนเคยเห็นปู่กอดจูบลูบคำญาติอีก 2 คน เป็นลูกของลุง พี่คนโตอายุ 14 ปี เคยมาเล่าให้ตนฟังด้วย ส่วนน้องคนเล็กเคยโดนล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ตนอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ไปช่วยพี่กับน้อง 2 คนนั้นด้วย และก็อยากให้ปู่ติดคุก ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่เคยเล่าให้คุณพ่อฟังมีแต่เล่าให้แม่เลี้ยงฟังเท่านั้น

น.ส.ญาณี (นามสมมุติ) แม่เด็ก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้น้องอยู่กับตนที่จ.แพร่ และอยากมาเรียนในเมืองที่มีการศึกษาดีๆ จึงขอย้ายมาอยู่กับคุณพ่อ ตั้งแต่น้องกลับมาก็ไม่ค่อยได้คุยกัน เหมือนน้องไม่สะดวก เปลี่ยนไปเยอะ ตนจึงเชื่อว่าน้องถูกล่วงละเมิดทางเพศจริง เพราะคนเคยอยู่กับพ่อเลี้ยง (ปู่) มาก่อน ถูกพ่อเลี้ยงพูดจาคุกคามเป็นประจำ ตนจึงคิดว่าน้องน่าจะโดนแบบเดียวกับตน และก็เป็นจริง ตนเพิ่งรู้เรื่องจากที่น้องโทรหาเมื่อวานนี้ก็พูดคุยกับญาติให้ขอความช่วยเหลือจาก “เพจสายไหมต้องรอด” และรีบนั่งรถไฟมาหาน้องทันที เมื่อมาถึงตนเห็นลักษณะของน้องเปลี่ยนไป รูปร่างอวบขึ้น มีอาการซึม ไม่ค่อยพูด ตอนนี้อยากให้น้องสภาพจิตใจกลับมาเป็นปกติ และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็จะรับน้องกลับไปอยู่กับตน หลังจากได้พูดคุยกับน้องวันนี้เหมือนเขาดีขึ้น พูดคุยกับตน ถาม-ตอบหมดทุกอย่าง ตนไม่คิดโกรธเกลียดใครที่ทำกับลูกสาวของตน แต่ยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย และเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
นายนวพล อายุ 48 ปี พ่อเด็ก กล่าวว่า ตั้งแต่ตนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้เรียกพ่อเลี้ยงและแม่ของตนมานั่งคุยกัน เพื่อเคลียร์ให้จบ ตนได้ถามกลับไปว่าทำไมพ่อเลี้ยงถึงทำกับลูกสาวของตนแบบนี้ และถามน้องว่าถูกกระทำอะไรมาบ้าง น้องบอกว่าถูกจับแขน ลูบคลำ แต่ไม่ได้เล่าถึงขั้นมีเพศสัมพันธ์ ตนจึงบอกกับทางบ้านไว้ว่าขอไม่ต้องไปแจ้งความเพราะพ่อเลี้ยงเขาแก่แล้ว และเห็นแก่ที่เขาเลี้ยงตนมา รู้สึกสงสารน้อง กลัวน้องฝังใจ และได้ตัดสินใจย้ายที่อยู่ ย้ายโรงเรียนให้น้องลืมปัญหาตรงนี้ ส่วนพ่อเลี้ยงก็เข้ามาก้มกราบเท้าตน ซึ่งตนไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ส่วนเรื่องนอกบ้านที่บอกว่าพ่อเลี้ยงไปลวนลามเด็กคนอื่นตนไม่ทราบ แต่รู้ว่าเขาลวนลามลูกสาวของตนตั้งแต่ตอน ป.4 ตนรู้สึกเสียใจทุกวัน ตอนน้องมาบอกว่าถูกปู่ลวนลามไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำได้ลงคอ พยายามเรียกมาคุยให้รู้เรื่องทุกคนในบ้าน และถามจากคนอื่นๆด้วยจึงมารู้ว่าเป็นความจริง
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่า คุณพ่อกับคุณแม่น้องเลิกกัน คุณแม่อยู่จ.แพร่ ส่วนคุณพ่อมีแฟนใหม่ จึงให้ลูกสาวไปอยู่บ้านปู่กับย่าใกล้ๆกัน คุณพ่อทราบเรื่องที่น้องถูกล่วงละเมิดทางเพศทั้งหมดตั้งแต่ต้น ส่วนสาเหตุที่ไม่นำน้องไปแจ้งความเพราะปู่ได้มากราบเท้าขอขมาคุณพ่อแล้ว เลยไม่ติดใจเอาความใดๆ จากนั้นคุณพ่อจึงมารับน้องกลับไปอยู่ด้วย แต่แฟนใหม่คุณพ่อไม่พอใจจึงจะไล่ให้น้องกลับไปอยู่กับปู่ น้องจึงตัดสินใจโทรไปขอความช่วยเหลือจากคุณแม่ โดยน้องเล่าให้คุณแม่ฟังว่าถูกปู่ล่วงละเมิดทางเพศมานาน 2-3 ปี
หลังทราบเรื่องตนจึงได้ประสานไปยังผู้กำกับสภ.ปากเกร็ด ,หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่ร่วมกัน โดยพบน้องกับคุณพ่ออยู่ด้วยกันที่โรงพยาบาล ซึ่งเรื่องนี้เป็นความผิดอาญาร้ายแรง และยอมความไม่ได้ ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด รวมถึงพิจารณาความผิดของคุณพ่อด้วยที่ทราบเรื่องแต่กลับเพิกเฉย ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อสภาพจิตใจของลูก นอกจากนี้ทราบว่าปู่ อดีตเคยทำงานเป็นภารโรงที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง จึงไม่มั่นใจว่าเคยก่อเหตุในลักษณะนี้กับใครบ้าง หากมีผู้ปกครองท่านใดพอทราบเรื่องสามารถติดต่อเข้ามาแจ้งเบาะแสได้ ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือน้องยืนยันว่านอกจากตนเองแล้ว ยังมีเด็กอีก 2 คน ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศเช่นเดียวกัน ซึ่งพรุ่งนี้หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรีจะลงพื้นที่ช่วยเหลือคุ้มครองเด็กทันที โดยหลังจากนี้น้องจะต้องเข้ารับการตรวจสภาพจิตใจอย่างเร่งด่วน เนื่องจากน้องถูกกระทำย่ำยีมาเป็นเวลานาน ซึ่งคุณพ่อควรปกป้องน้องตั้งแต่ต้น แต่กลับไปปกป้องผู้กระทำความผิด มันยิ่งทำให้น้องรู้สึกแย่ที่ไม่ปกป้องเขา ฝากคุณพ่อคุณแม่หรือคนข้างบ้าน หากพบเห็นพฤติกรรมการล่วงละเมิดต่อเด็ก หรือสตรี สามารถแจ้งได้ที่ เบอร์ 1300 สายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตลอด 24 ชม. หรือ “เพจสายไหมต้องรอด” เราจะช่วยกันทำให้สังคมดีขึ้น
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี