ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.กานต์ ธรรมเกษม ผบก.สส.ภ.7 นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชจังหวัดนครปฐม , พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พร้อม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการปฏิบัติการจับกุม ผู้ต้องหาห้าคดีสำคัญ โดยมีการจับกลุ่มและยึดของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 4.1 ล้านเม็ด มูลค่าหลาย 10 ล้านบาท

โดยการแถลงการณ์ดังกล่าว พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7 เผยว่า ในการจับกุม ผู้ต้องหาหลายคดีรวมถึงของการซึ่งมีการยึดเข้าสู่กระบวนการ โดยมีทั้งคดียาเสพติด คดีก่อเหตุแทงกันทำร้ายร่างกายจนจนถึงชีวิต คดีเกี่ยวกับการรับจ้างยิงเพื่อหักยอดหนี้มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท และคดีที่มีมีการยิงกันระหว่างพ่อตาและลูกเขย ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สนธิระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ จังหวัดนครปฐม กอ.รมน.จังหวัดนครปฐม ทำให้มีผลการปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพและเป็นการเริ่มปฎิบัติการเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันเหตุและติดตามจับกลุ่มผู้ต้องหาหลังก่อเหตุ ซึ่งในครั้งนี้ยังได้มีการใช้เทคโนโลยีและนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาดำเนินการในกระบวนการดังกล่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่าในการดำเนินการประสานงานความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ทหาร และอีกหลายภาคส่วนอาทิเช่นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้มีการประสานความร่วมมือกันอย่างชัดเจนและได้มีการใช้เทคโนโลยีด้วยการติดตามผู้ต้องหาและขบวนการผู้ค้ายาเสพติดจากกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวี ที่มีอยู่รอบเมืองจึงทำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจังหวัดนครปฐมยืนยันว่าจะมีการประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงานเพื่อทำให้เกิดความผาสุกกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างชัดเจน
ภาพ/ข่าว กิตติพงษ์ จันทร์ละมูล ผู้สื่อข่าว จ.นครปฐม