จากรณีที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในซอยรัตนาธิเบศร์ 22 ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ร.ต.อ.ธงชัย กรอบประดับ อายุ 64 ปี อดีตรองสารวัตรสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ (ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว) ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองและครอบครัว ได้รับความเดือดร้อน จากเพื่อนบ้านที่ปลูกต้นไม้จนรกรุงรังทั้งบ้านแล้วไม่ยอมตัด ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้ ชอนไชเข้าไปในบ้าน รวมทั้งรั้วหน้าบ้าน ตนเคยพูดจาขอร้องเขาแล้วแต่เขาไม่สนใจ บอกว่า ต้นไหนเกินก็ตัดเอาเอง ตนเองต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการก่อกำแพงปูนสูงปิดทับไประหว่างบ้านเขากับบ้านตนเองที่อยู่ติดกันเพื่อไม่ให้ต้นไม้ซึ่งเป็นไม้ใหญ่คือต้นไทรเลื้อยเข้ามาในบ้าน แต่ต้นไม้ก็ขึ้นจนจะทะลุมาถึงหลังคาบ้านตนเองแล้ว ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝนด้วยต้นไม้เจริญงอกงามอย่างรวดเร็ว ทำให้รกรุงรังไปหมดทั้งบ้านของเขา และยังมับ้าน ของเพื่อนบ้านอีกหลังที่อยู่ด้านขวา ก็ได้รับความเดือดร้อนเหมือนตนเอง ส่วนบ้านคู่กรณีซึ่งอยู่ตรงกลางทราบแต่ว่าเจ้าของบ้านเป็นผู้สูงอายุกว่า 70 ปี เคยเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าและเกษียณมาแล้วพักอาศัยอยู่กับภรรยาเพียงแค่ 2 คน ทำให้บ้านตนและบ้านเพื่อนบ้านอีกหลังได้รับความเดือดร้อน สองสามีภรรยามาเก็บตัวอยู่ในบ้านไม่เคยออกมาสุงสิงกับชาวบ้านเลยกว่า 30 ปี อยากขอให้สื่อเป็นกระบอกเสียงช่วยเหลือหรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขด้วย
ด้านป้าแดง อายุ 35 ปี ซึ่งมีบ้านติดกันอยู่ ด้านขวา เผยว่า ตนก็ได้รับความเดือดร้อน อย่างหนักเช่นกัน จนต้องก่อกำแพงปูน เหมือนบ้านของร้อยตำรวจเอกธงชัย แต่คู่กรณีก็ไม่รับผิดชอบ ปล่อยให้ต้นไม้ขึ้น จนจะทะลุเข้ามาบนหลังคาและหน้าบ้าน ตนเคยจ้างช่างมาตัดต้นไม้ 2 ครั้ง ครั้งแรกเสียไป 3,000 บาท ครั้งที่ 2 เสียไป 2,500 บาท แต่พอนานไปๆต้นไม้ก็ขึ้นเหมือนเดิม ตนเคยพูดคุยกับเขาแล้ว เขาก็พูดเหมือน กับที่พูดกับร้อยตำรวจเอกธงชัยว่าถ้าต้นไหนยาวต้นไหนเกินก็ตัดเอา แล้วตนจะต้องมาเสียค่าใช้จ่ายในการตัดต้นไม้บ้านเขาด้วยเหรอ ทั้งๆที่ตนไม่ได้ปลูก ตนซื้อบ้านมาจากนักร้องดัง “เนเน่” ตอนนั้นคุณแม่ของนักร้องก็บอกว่า บ้านคู่กรณีปลูกต้นไม้รกรุงรังมากแบบนี้ทำให้ไม่อยากอยู่จึงขายบ้านให้กับตน ตนคิดว่า เพื่อนบ้านติดกันน่าจะพูดคุยเจรจากันได้ คิดไม่ถึงเขากลับไม่รับผิดชอบอะไรเลยก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขให้ด้วย
ขณะที่ผู้สื่อข่าวเองได้ตะโกนเรียก เจ้าของบ้านด้วยเสียงอันดัง แต่ก็ไม่มีใคร อยู่ในบ้านสังเกตพบว่าภายในบ้านเต็มไปด้วยขยะและขวดน้ำกองทิ้งไว้จนเหลือทางเดินแคบๆ เพียงแค่ให้เดินเข้าไปในบ้านเท่านั้นเอง ส่วนที่ประตูเล็กพบว่ามีการคล้องกุญแจล็อคประตูบ้านไว้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 1 ชั่วโมง ได้มีหญิงสาวนั่งรถแท็กซี่ เข้ามาที่บ้าน หลังนี้ ผู้สื่อข่าวจึงเข้าไปสอบถามทราบว่าชื่อป้านุช พักอาศัยอยู่กับสามีที่บ้านหลังนี้เพียงแค่ 2 คน
โดยป้านุช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ต้นไม้ของสามีที่ปลูกไว้ หากต้นไหนรกและเลื้อย ไปที่บ้านของป้าแดงหรือร้อยตำรวจเอกธงชัย ตนก็อนุญาตให้ตัดได้ ขณะที่ร้อยตำรวจเอกธงชัย กับป้าแดง ได้โต้แย้งว่า ถ้าตัดแล้วใครจะออกค่าใช้จ่ายล่ะ ป้านุชได้แต่ยิ้มแล้วบอกว่าอันนั้นก็ต้องเป็นเรื่องของ ทางคู่กรณีทั้งสองคนเอง ตนกับสามีไม่เกี่ยวข้อง แต่จะพยายามเจรจาพูดคุยกับสามีในเรื่องนี้ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 23 กันยายน 68 ที่สำนักงานเทศบาลนครนนทบุรี นายสมนึก ธนเดชากุลนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ได้พูดคุยรับฟังปัญหาจากร้อยตำรวจเอกธงชัย และป้าแดง ที่ได้รับความเดือดร้อนจากคุณลงวัย 70 กว่าปี ที่ปลูกต้นไทรจนล้ำแนวออกมานอกบ้านและบ้านข้างเคียง จนได้รับความเดือดร้อน โดยทางเจ้าของบ้านที่ปลูกไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น หลังรับฟังปัญหานายสมนึกได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองช่างเทศกิจและเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เดินทางลงพื้นที่ทันที เพื่อเจรจาพูดคุยกับ เจ้าของบ้านในการหา ทางออกหลังชาวบ้าน เดือดร้อน ซึ่งนายสมนึกเอง กล่าวว่า การจะตัดต้นไม้ในบ้านเขาต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของบ้านด้วยแต่หากตัดต้นไม้ส่วนเกินที่เลยออกมาบ้านผู้เสียหาย อีกสักพักต้นไม้ก็จะยาวเหมือนเดิมอีกก็จะแก้ปัญหาไม่สิ้นสุด ตนจึงให้เจ้าหน้าที่ลงไปพูดคุยและเจรจากับ บ้านของคุณลุงและคุณป้าก่อนว่าจะยินยอมให้ตัดต้นไทรในบ้านไหม
ต่อมา 14.00 น. ทางเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ กว่า 15 นาย เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว และตะโกนเรียกคุณลุงเจ้าของบ้านกับคุณป้าแต่ไม่มีใครขานรับหรือออกมาแต่อย่างใด โดย ร.ต.อ.ธงชัยและป้าแดง ยืนยันว่าคุณลุงอยู่ในบ้านตลอดเวลา มีเพียงคุณป้านุชเท่านั้นที่ออกไปข้างนอกแล้วก็จะกลับมาในช่วงเย็น เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเรียกอยู่นานแต่ไร้การตอบรับจากคนที่อยู่ในบ้าน จึงได้ตัดสินใจนำใบเตือน แขวนไว้ที่หน้าบ้าน เพื่อให้ทำการแก้ไขและปรับปรุงภายใน 3 วัน หากไม่ได้รับการตอบรับหรือแก้ไขจากทางเจ้าของบ้าน ในวันที่ 26 กันยายน 68 เจ้าหน้าที่จะนำอุปกรณ์ตัดต้นไม้ มาทำการรื้อถอนและตัดต้นไม้หน้าบ้านทันที เพราะถือว่าได้มีการแจ้งเตือนแล้ว ส่วนต้นไม้ที่อยู่ในบ้าน ในวันนั้นคงต้องเจรจากับทางเจ้าของบ้านอีกทีว่าจะยินยอมให้ตัดหรือไม่ เบื้องต้นคงจะต้องตัดเฉพาะในส่วนของหน้าบ้านที่ล้ำแนวออกมานอกถนนและอยู่ในเขตความดูแลของเทศบาลนครนนทบุรี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านไปก่อน
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี