คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน กลุ่มภาคตะวันออก นำโดย นายกิติศักดิ์ หมื่นศรี รองประธานกรรมการคนที่หนึ่ง พร้อมด้วยคณะวุฒิสภา อาทิ นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา, พลโท ปิยะชาติ ธูปทอง, และ พันเอกชวลิต จารุกลัส เดินทางลงพื้นที่ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เพื่อติดตามสถานการณ์ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา และพบปะกำลังพลในพื้นที่ โดยมี นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ให้การต้อนรับ และรายงานสรุปสถานการณ์ชายแดน พร้อมความคืบหน้าในการปฏิบัติภารกิจรักษาอธิปไตยของชาติ พื้นที่ชายแดนจันทบุรีมีความยาว 87 กิโลเมตร ปัจจุบันมีพื้นที่อ้างสิทธิ์ 2 แห่ง ได้แก่


เขาตาง๊อก เนื้อที่ประมาณ 3 ตารางกิโลเมตร ที่ทั้งสองฝ่ายต่างอ้างสิทธิ แต่ไม่มีการครอบครองหรือทำกิน รอผลการเจรจาในระดับผู้บัญชาการ บริเวณหลักเขตที่ 66–67 ซึ่งเคยพบการบุกรุกปลูกข้าวโพดและอ้อยจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ได้มีการเจรจาและรื้อถอนออกแล้ว ปัจจุบันไม่มีผู้เข้าไปใช้ประโยชน์ นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เฝ้าระวังสำคัญอีก 2 จุด คือ พื้นที่รูปตัว “ก” และรูปตัว “U” ซึ่งใช้แนวสันเขาและลำคลองปันน้ำเป็นสัญลักษณ์การแบ่งเขตแดน หลังรับฟังบรรยายสรุป คณะวุฒิสภาได้ มอบสิ่งของและกล่าวให้กำลังใจแก่กำลังพลทหารหาญที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน หลังจากนั้นเดินทางไปยัง จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน และ ลงพื้นที่รูปตัว “ก” โดยมีทางนายประพิศ ญาณปัญญา นายอำเภอโป่งน้ำร้อนพร้อม

ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ให้การต้อนรับ โดยทางคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเยี่ยมเยียน ให้กำลังใจและเป็นการแสดงความห่วงใยต่อเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา..

จากนั้นทางดร.รัฐวิทย์ฯ ได้ชี้แจงถึงพื้นที่ รูปตัว “ก.” ว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดฐานปฏิบัติการชายแดนและถูกน้ำกัดเซาะมานานกว่า 6 ปี จนดินทรุดตัวเป็นลักษณะคล้ายเกาะ หากปล่อยไว้เพียงไม่กี่เมตร อาจถูกตัดขาดเนื่องจากถูกน้ำกัดเซาะ จึงมีแนวคิดที่จะปรับสภาพพื้นที่ให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม จึงได้ประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมแรงร่วมใจกัน ถมดินปรับพื้นที่และเสริมแนวตลิ่ง เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ชายแดนให้กลับคืนดังเดิม เพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทย ให้กลับมามีสภาพสมบูรณ์ และปรับสภาพเส้นทางให้มีความสะดวกยิ่งขึ้นในการส่งกำลังบำรุงเพื่อการปฏิบัติการชายแดนได้อย่างสะดวกและทันเวลา.
ภาพ/ข่าว เอกลักษณ์ อานาภรณ์ ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี