ทีมข่าวได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหาย คือ น.ส.วัศยา หรือเกรซ นิ่มเนียม อายุ 26 อาชีพพนักงานร้านอาหาร พร้อมแฟนหนุ่ม และ นายธนกร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกรายว่าถูกนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี (คู่กรณี) ขับรถยนต์เก๋งเสียหลักเฉี่ยวชนรถจยย.ที่จอดอยู่ล้มระเนระนาด ได้รับความเสียหายกว่า 6 คัน บริเวณหน้าอาคารป็อปปูล่าคอนโด ตึก T8 เมืองทองธานี ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 68 เวลาประมาณ 04.25 น. โดยคู่กรณีอ้างว่ามองไม่เห็นรถจยย.ที่จอดอยู่ ซึ่งเหตุการณ์ผ่านมานานกว่า 1 เดือน คู่กรณีกลับไม่รับผิดชอบ อ้างตกงาน ไม่มีประกันภัยรถยนต์ มิหนำซ้ำยังบ่ายเบี่ยงติดต่อไม่ค่อยได้ ผู้เสียหายจึงโพสต์เฟซบุ๊กติดตามทวงถาม แต่คู่กรณีกลับติดต่อกลับมาข่มขู่ว่าจะจ้างทนายฟ้องร้อง และบอกว่า “อยากได้ไปฟ้องเอาเลย มึงไปเอาที่ศาล“ จึงมาร้องสื่อให้ช่วยเหลือ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ภาพจากกล้องวงจรปิด วันที่ 14 ส.ค. 68 เวลา 04.26 น. จับภาพรถจยย.ที่จอดอยู่บริเวณหน้าอาคารป็อปปูล่าคอนโด ตึก T8 เมืองทองธานี ล้มระเนระนาดกว่า 6 คัน ทราบภายหลังสาเหตุมาจากถูกรถยนต์เก๋งเฉี่ยวชน จากนั้นรปภ.จึงเดินมาดู (กล้องจับไม่ถึงรถยนต์คันที่เฉี่ยวชน)
น.ส.วัศยา หรือเกรซ ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถจยย.หน้าคอนโด เจ้าหน้าที่รปภ.ได้แจ้งว่ารถจยย.ของตนเองถูกรถยนต์เก๋งเฉี่ยวชนให้รีบลงมาดู จากนั้นตนเองและผู้เสียหายคนอื่นๆ จึงได้ลงมาดูและพบนายเอ (นามสมมุติ) คู่กรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวทุกคนให้ไปพูดคุยที่สภ.ปากเกร็ด โดยคู่กรณีอ้างว่ามีอาการมึนเมา ทะเลาะกับแฟนสาว สายตาสั้นและมองไม่เห็นรถจยย.ที่จอดอยู่ จึงได้ขับรถเฉี่ยวชน แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจปริมาณแอลกอฮอลล์กลับไม่พบ คู่กรณีบอกว่ารถยนต์เก๋งไม่มีประกัน แต่ยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้โดยให้ตนเองและผู้เสียหายคนอื่นๆไปประเมินค่าซ่อมรถจยย.ทั้งหมด และให้ส่งเลขบัญชีให้ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อไม่ค่อยได้ โดยคู่กรณีมีการนัดชำระ 3 ครั้ง แต่ผลัดผ่อนทุกครั้ง และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้
ตนได้นำรถจยย.ไปประเมินความเสียหายแล้ว ค่าซ่อมแซมประมาณ 9,900 บาท ส่วนผู้เสียหายอีกรายประมาณ 5,000 บาท ผู้เสียหายหลายคนพยายามติดต่อคู่กรณีมาตลอดแต่โทรไม่รับ ไลน์ไม่อ่าน จนตนทนไม่ไหวจึงโพสต์เฟซบุ๊กทวงถาม เมื่อคู่กรณีเห็นจึงกดอ่านไลน์และตอบกลับด้วยการด่าทอ ข่มขู่ว่าจะจ้างทนายฟ้องร้อง และบอกว่า “อยากได้ไปฟ้องเอาเลย มึงไปเอาที่ศาล“ พร้อมสั่งให้ตนลบโพสต์ ซึ่งตนยืนยันว่าจะไม่ลบจนกว่าคู่กรณีจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะตนเองและผู้เสียหายคนอื่นๆมองว่าหากตนไม่โพสต์คู่กรณีก็เลือกที่จะบ่ายเบี่ยงไม่รับสาย ไม่อ่านไลน์
วันนี้ตนเองและผู้เสียหายคนอื่นๆ จึงมาร้องเรียนสื่อมวลชนว่าอยากให้ช่วยตามเรื่องให้ถึงที่สุด อยากให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบไม่ใช่มาข่มขู่ที่ตนไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก อยากให้รักษาคำพูดที่เคยตกลงกันไว้ เพราะทุกวันนี้พวกตนต้องซ่อมรถจยย.เพื่อใช้งาน มีหลักฐานเป็นใบเสร็จ ถ้าไม่ซ่อมรถจยย.ก็จะใช้งานไม่ได้ การผลัดผ่อนไปเรื่อยๆนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี