พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่โรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การสร้างขวัญกำลังใจให้นักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา” และให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568

จากเหตุการณ์ดังกล่าว โรงเรียนกันทรลักษ์วิทยามีคำสั่งให้อพยพนักเรียนกลับบ้านพร้อมผู้ปกครอง แต่ระหว่างทางมีนักเรียนบางส่วนแวะร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. บ้านผือ เกิดเหตุระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต รวมทั้งนักเรียนของโรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา 2 ราย ได้แก่ เด็กหญิงทัก ประชัน นักเรียนชั้น ม.3/1 และเด็กชายพีรพัฒน์ คุณาพันธ์ นักเรียนชั้น ม.3/5 ส่วนอีก 2 รายเป็นนักเรียนจากโรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โรงเรียนในพื้นที่ชายแดนต้องปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ก่อนการบรรยาย แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มอบเกียรติบัตรเชิดชูแก่นักเรียนที่เข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความสูญเสีย

แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวขณะบรรยายว่า “ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจ ขอสดุดีวีรกรรมของพี่ ๆ น้อง ๆ ทหารที่เสียชีวิตเพื่อชาติทั้ง 15 นายในห้วงแรก และสดุดีประชาชนที่สละชีพ จากการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมของกัมพูชา ขณะนั้นตนบัญชาการการรบอยู่ ติดตามข่าวแล้วก็เสียใจ มันไร้จิตสำนึกและไม่มีทหารที่ไหนเขาทำกัน เสียใจที่เกิดขึ้น ชื่นชมน้อง ๆ ทุกคนที่ช่วยเหลือผู้เสียชีวิตด้วย” “ธงชาติไทยมีสามสีห้าแถบ ขอให้พวกเรารักษาสามสีนี้ไว้ให้ดี วันนี้ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องแสดงออกให้ชัดเจนถึงความเป็นคนไทย ที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นคนดี ไม่โกงกินบ้านเมือง แผ่นดินต้องอยู่กับพวกเราตลอดไป ตารางนิ้วเดียวตนก็ยอมไม่ได้ ยอมสละได้แม้กระทั่งชีวิต กี่ชีวิตก็พร้อม เพราะแผ่นดินนี้ทำให้มีที่อยู่ ทำให้ทุกคนได้เรียนหนังสือ พ่อแม่ได้มีงานทำ หาเงินมาให้พวกเราเรียนหนังสือ เราเหลือแค่นี้ ในยุคของเรา เราต้องทวงแผ่นดินให้หมด”

“สี่คืนห้าวัน พวกเราทำเต็มที่ ได้แผ่นดินคืนมา และจะทำอีกถ้ามีโอกาส เราไม่ได้ทำอะไรผิด สิ่งที่มาพูดวันนี้ไม่ได้เตรียมมา แต่พูดจากใจ เพราะสถานการณ์ทุกอย่างอยู่ในหัวแม่ทัพหมด ตอบคำถามได้ทุกเรื่อง ชาติหมายถึงแผ่นดินและความเป็นเอกราช เราได้ทำหน้าที่ทวงแผ่นดินอย่างดีที่สุดแล้ว และหน้าหนาวนี้ แม่ทัพจะพาทุกคนไปวิ่งมาราธอนที่ภูมะเขือ ใครอยากไปยกมือ เตรียมซ้อมไว้ คุณครูที่จะไป ถ้าไม่ไหวก็เดินเอา ไปดูสถานที่ร่องรอยการสละเลือดเนื้อของทหารไทย ไปให้กำลังใจเขา และไปชมธงชาติที่สวยที่สุดในประเทศไทย ในส่วนของภูมะเขือ มีแนวโน้มจะทำอนุสาวรีย์แห่งเกียรติยศของทหารไทย ตนมีแนวคิดที่จะทำ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวสดุดี หน้าหนาวนี้ทุกคนจะได้ไปเห็นธงชาติ บรรยากาศที่สวยงาม ตนมีแนวคิดที่จะสร้างเพื่อทหารและประชาชน เป็นการสดุดี เพื่อทุกคน ที่เสียชีวิต”

แม่ทัพภาคที่ 2 ยังกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดน การเปิดปิดด่านสำคัญอย่างไร เปิดด่านตือการค้าขาย ความดีและไม่ดีก็จะผ่านที่ด่าน สิ่งผิดกฏหมาย สินค้า คนข้ามไปข้ามมา และทุกอย่างก็จะผ่านที่ด่าน ด่านมีความสำคัญของความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ การปิดด่านหมายถึงสินค้า ที่เขาเคยมีก็จะไม่ได้ น้ำมันและทุกอย่าง ก็จะไม่ได้ ทำให้เศรษฐกิจฝืดเคือง ปูนเอาทำบังเกอร์ ก็ไม่มี น้ำมันเติมรถถังก็ไม่มี นี่คือเหตุผลที่ต้องปิดด่าน ค่าครองชีพของเขาสูงขึ้น นี่คือเหตุผล ที่ควรปิดด่าน ถามว่าไทยเดือดร้อนไหม ก็มีพ่อค้าแม่ค้า เดือดร้อนบ้าง แต่มันคือชัยชนะที่ไม่ต้องรบ ส่วนการวางแผนหลังเกษียณ ตนมองว่า เป็นที่ปรึกษาของ ผบ.ทบ ต่อ อนาคตอาจจะหล่อกว่าเดิม ใส่สูทผูกไทด์มา ผมก็ไม่โล้นแบบนีั แต่ที่แน่ๆ คือช่วยประเทศชาติเหมือนเดิม ถ้ามีเหตุการณ์อีก ตนก็จะมาอยู่กับพวกเราเหมือนเดิม จะอยู่กับ ผบ.ทบ. อยู่กับพี่น้องคนไทย เพื่อรักชาติแผ่นดินต่อไป

บรรยากาศการบรรยายมีช่วงซาบซึ้ง แม่ทัพภาคได้ให้การถามตอบ ปรากฏว่า มีทหารพรานรายหนึ่งเข้ามากอดและหอมแก้มแม่ทัพ พร้อมบอกว่า “เพื่อนฝากมา” และยังมีนักเรียนตัวเล็กที่แม่ทัพอุ้มและหอมแก้มเพื่อให้กำลังใจ ท่ามกลางความปลื้มปีติของนักเรียนและผู้เข้าร่วมงาน หลังการบรรยาย แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปั๊ม ปตท. บ้านผือ

หลังบรรยายแล้วเสร็จได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การเปิดด่านไม่ได้หมายถึงว่าเราเสียปราสาทตาควาย ถ้าเปิดอีกแบบหนึ่งเราก็ไม่ยอมรับ ขณะนี้มีทหารกัมพูชาอยู่ในปราสาทตาควาย เราก็ไม่ยอมรับ เราได้มีการทำเรื่องประท้วง ทวงคืน และทำทุกรูปแบบที่จะให้ได้ปราสาทคืนมา และถ้ามีโอกาสเราก็จะดำเนินการต่อ หลังจากประชุม GBC แล้วเสร็จ และมีการพัฒนาไปถึงการเปิดด่าน แปลว่าทหารต้องมีการถอยกำลังออกไปหมดแล้ว การเปิดด่านจึงเป็นขั้นตอนสุดท้ายตามความเหมาะสม และใครอยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น ส่วนใครรุกพื้นที่ตรงไหนในช่วงที่ผ่านมา เราก็ทำดีที่สุดแล้ว แต่ปราสาทตาควาย เรายืนยันว่าเป็นของเราอยู่

ทางรัฐบาลได้ให้แนวทางมา และได้พูดคุยกันเป็นประจำ ส่วนเรื่องต่าง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลพิจารณา ส่วนเราก็ได้แต่ให้แง่คิด มุมมองในส่วนของทหาร แต่การตัดสินใจก็ยังเป็นของรัฐบาล ซึ่งเวลานี้ยังมีการตรึงกำลังทหารอยู่ ยังไม่ปลอดภัยกับประชาชนที่จะเปิดด่านในตอนนี้ ส่วนประชาชนมีแนวคิดที่จะให้มีการสู้รบเพื่อเอาปราสาทตาควายคืนมา พวกเรามีความคิดไม่ต่างกัน แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้ยุติไปแล้ว เราก็ต้องดูอนาคตต่อไป แต่หากการสู้รบในรูปแบบประท้วงแล้วเขายอมคืนให้หรือไม่ ก็ต้องดูทิศทางต่อไปสถานการณ์ชายแดนตอนนี้ก็ยังเป็นปกติ แต่ต้องมีการเฝ้าระวัง โดยเฉพาะยังไม่มีการถอนกำลัง และทางกัมพูชามีการเสริมกำลัง โดยอ้างว่าเป็นการสับเปลี่ยนกำลังเท่านั้น ซึ่งเราได้ทำรายงานไปแล้ว ส่วนประชาชนในพื้นที่ตอนนี้ก็ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป