ที่สถานีตำรวจภูธร อ.โป่งร้อน จ.จันทบุรี พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ สุนทรวิภาต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี น.อ.นพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน จันทบุรีตลอดจนตำรวจ สภ.โป่งน้ำร้อน ตม. เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสอบปากคำคนไทย 5 ราย ที่ลักลอบกลับเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย หลังถูกขบวนการสแกมเมอร์หลอกไปทำงานบัญชีม้าในประเทศกัมพูชา.

สืบเนื่องมาจากเมื่อ วันที่ 11 กันยายน 2568 เวลา 23.30 น.ที่ผ่านมา กองทัพเรือโดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี (ชค.ทพ.นย.4) ร้อย.ทพ.นย.543 ตรวจพบบุคคลต้องสงสัยลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ จำนวน 5 ราย บริเวณบ้านเขียว หมู่ 4 ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี จึงควบคุมตัวสอบสวน พบทั้งหมดเป็นคนไทยที่ถูกหลอกไปเปิดบัญชีและทำงานเป็นบัญชีม้าในคาสิโนปอยเปต ทั้งหมดให้การตรงกันว่า ถูกชักชวนผ่านเฟซบุ๊กและไลน์ โดยมีคนไทยเป็นแอดมิน เสนอค่าตอบแทนสูงเพื่อแลกกับการเปิดบัญชีธนาคาร จากนั้นถูกนำตัวข้ามแดนไปปอยเปต เมื่อถึงที่หมายกลับถูกยึดเอกสาร บัตรประชาชน สมุดบัญชี และโทรศัพท์ ถูกกักตัวภายในตึกคาสิโนชื่อ “ซานโห” เพื่อรอทำงานยืนยันตัวตนสแกนใบหน้าโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใด ๆ.ต่อมาเมื่อบัญชีที่เปิดไว้หมดประโยชน์ จึงถูกนำตัวไปปล่อยทิ้งไว้ที่จังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา ก่อนมีคนนำทางพาลอบกลับเข้ามายังประเทศไทย กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบที่ จ.จันทบุรี .

หนึ่งในผู้เสียหาย นายชาญกร อายุ 18 ปี ให้การอ้างกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ระหว่างถูกควบคุมตัว ได้ถูกทำร้ายร่างกาย ใช้อุปกรณ์คล้ายเครื่องช็อตไฟฟ้าดัดแปลงช็อตที่คอ และกักขังในห้องมืด เนื่องจากปฏิเสธไม่ยอมทำงานตามคำสั่ง ขณะนี้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเบื้องต้นตำรวจได้นำตัวทั้ง 5 รายไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ฐานปฏิบัติการร้อย.ทพ.นย.543 ก่อนส่งต่อให้ สภ.โป่งน้ำร้อน เพื่อคัดกรองเหยื่อและดำเนินการตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองต่อไป

กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการค้ามนุษย์และการหลอกลวงแรงงานไทยไปเป็นเครื่องมือทางการเงินของขบวนการสแกมเมอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อสังคมไทย.
ภาพ/ข่าว เอกลักษณ์ อานาภรณ์ ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี