เอกอัครราชทูต อุปทูต และทูตทหารกว่า 23 ประเทศ และผู้สื่อข่าวไทย สำนักข่าวต่างชาติ ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมสังเกตการณ์ความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชาในหลายพื้นที่ของประเทศไทยโดยละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ และได้ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุบริเวณปั๊มน้ำมันบ้านผือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยพอถึงที่ปั๊มน้ำมัน นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้บรรยายสรุปให้คณะฯ ได้รับฟัง นอกจากนี้ยังมีญาติผู้สูญเสียชีวิตนำรูปผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบมายืนถือให้คณะทูตได้รับรู้ถึงความสูญเสียจากการที่กัมพูชายิงลูกระเบิดมายังพื้นที่ที่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ทางญาติผู้สูญเสียยังได้บอกเล่าถึงเหตุการณ์และความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกด้วย
นางกมนรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของปั๊ม ปตท. ที่ถูกลูกระเบิดลง ได้เล่าเหตุการณ์ตอนที่เกิดลูกระเบิดให้ทางฝั่งทูตนานาชาติ สื่อมวลชนจากต่างประเทศ และจากประเทศไทย ฟังทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุมีผู้มาใช้บริการทั้งเติมน้ำมัน และเข้าร้านสะดวกซื้อ และร้านกาแฟเป็นจำนวนมาก พอสักพักผู้ใช้บริการเริ่มลดลง ได้ไม่นานลูกระเบิดดังกล่าวก็ตกลงมาที่ร้านสะดวกซื้อโดยไม่รู้ตัว ตนเห็นกับตา ไฟจากแรงระเบิดเริ่มลุกลามพุ่งขึ้นหลังคาและสูงขึ้นไปบนฟ้า ตอนนั้นตนรีบเข้ามาในปั๊มและมารับลูกสาวที่อยู่ในปั๊ม และบอกให้พนักงานในปั๊มทุกคนรีบออกจากปั๊มโดยด่วน ซึ่งพนักงานได้เข้ามาแจ้งกับตนว่าไม่สามารถช่วยคนในร้านสะดวกซื้อที่ถูกระเบิดลงได้ เนื่องจากไฟกำลังลุกไหม้อย่างหนัก และคนข้างในสลบ
โดยการสูญเสียในครั้งนี้มันมหาศาลมาก ตนได้เห็นคลิปการเกิดเหตุทุกอย่าง และได้ให้คลิปกับพี่น้องสื่อมวลชนไปแล้ว ซึ่งสิ่งที่ผู้สูญเสียได้รับตอนนี้มันไม่มีค่าเลย ถ้าเทียบกับความสุขของครอบครัว ตนอยากประกาศให้โลกได้รับรู้ว่าฝั่งไทยไม่ได้ยิงปะทะก่อน กัมพูชาเป็นฝ่ายยิงก่อน จนทำให้เด็ก ประชาชน ที่ไม่รู้เรื่องบาดเจ็บและเสียชีวิต มีแม่ที่กอดลูกไว้และยอมตายเพื่อจะปกป้องลูกจากเหตุการณ์นี้ อยากให้ทูตต่างชาติที่ลงมาในครั้งนี้โปรดเข้าใจประเทศไทยเราด้วย
ต่อมา คณะทูต-คณะทูตทหาร กว่า 24 ชาติ พร้อมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และสื่อในประเทศไทย ได้เดินทางไปดูความเสียหายของ รพ.สต.ชำเม็ง ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งพบว่า รพ.สต.ดังกล่าวถูกลูกระเบิดและสะเก็ดระเบิดตกใส่ตัวอาคาร ข้าวของภายในอาคาร และเครื่องมือทางการแพทย์พังเสียหายทั้งหมด โชคดีจุด รพ.สต. ตรงนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
หลังจากนั้น คณะทูต-คณะทูตทหาร กว่า 24 ชาติ พร้อมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และสื่อในประเทศไทย ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้อพยพที่ศูนย์พักพิงในอำเภอกันทรลักษ์ เพื่อให้กำลังใจ และรับฟังสภาพปัญหา ข้อคิดเห็นจากผู้อพยพด้วยตัวเอง ก่อนที่คณะจะเดินทางกลับ
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพ เปิดเผยหลังจากลงพื้นที่ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้มีที่มาจากการที่กัมพูชาใช้อาวุธลงในพื้นที่พลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องกับแนวการรบ ไม่เป็นไปตามกติกาสากล และกระทบกับหลักสิทธิมนุษยชน สำหรับทั้ง 3 จุด คือ ปั๊มน้ำมัน เพื่อให้เห็นสภาพพื้นที่จริง เพราะปั๊มน้ำมันอยู่ห่างจากแนวชายแดน หรือการใช้กำลังทางทหารกว่า 30 กิโลเมตร ส่วนจุดที่ 2 โรงพยาบาล ซึ่งมีความสำคัญมากในกฎหมายสากล สถานพยาบาลได้รับผลกระทบ เพียงแต่การบริหารจัดการทางทหาร และฝ่ายปกครองทหารไทยในพื้นที่ส่วนหลัง ได้ทำการอพยพไปก่อนแล้ว จึงทำให้ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ส่วนจุดที่ 3 มีผลกระทบเช่นเดียวกันจากการใช้อาวุธของฝั่งกัมพูชา ทำให้เกิดผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง เกินกว่าคนที่ควรจะเป็น เกินขอบเขตตามที่กฎหมายสากลระบุไว้ เกินกว่าในพื้นที่การรบ ทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากเกินความจำเป็นที่ควรจะเป็น ขณะนี้ ด้วยการบริหารจัดการของฝ่ายบริหาร และฝ่ายมหาดไทยในพื้นที่ พยายามบริหารพื้นที่ส่วนหลังให้ดีที่สุด พล.ต.วินธัย ย้ำว่า กิจกรรมในวันนี้ต้องการสื่อให้เห็นข้อเท็จจริง จะไม่มีการบิดเบือน หรือปรุงแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น นอกเหนือจากในประเทศแล้ว ยังต้องการสื่อถึงประชาคม หรือสังคมโลก ให้ได้รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยนั้น ประเทศไทยคือผู้ที่ถูกกระทำ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องจะนำเสนอข้อมูล และข้อเท็จจริงเหล่านี้ไปสู่สังคมโลก เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยอยู่ในกรอบกติกาของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
@chaijexu ศรีสะเกษ คณะทูต 24 ชาติ ลงพื้นที่ ตรวจสอบผลกระทบจากเหตุโจมตีของกัมพูชา ไทยยืนยันยึดหลักกติกาสากล ไม่มีการบิดเบือนข้อมูล เอกอัครราชทูต อุปทูต และทูตทหารกว่า 23 ประเทศ และผู้สื่อข่าวไทย สำนักข่าวต่างชาติ ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมสังเกตการณ์ความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชาในหลายพื้นที่ของประเทศไทยโดยละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ และได้ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุบริเวณปั๊มน้ำมันบ้านผือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยพอถึงที่ปั๊มน้ำมัน นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้บรรยายสรุปให้คณะฯ ได้รับฟัง นอกจากนี้ยังมีญาติผู้สูญเสียชีวิตนำรูปผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบมายืนถือให้คณะทูตได้รับรู้ถึงความสูญเสียจากการที่กัมพูชายิงลูกระเบิดมายังพื้นที่ที่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ทางญาติผู้สูญเสียยังได้บอกเล่าถึงเหตุการณ์และความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกด้วย นางกมนรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของปั๊ม ปตท. ที่ถูกลูกระเบิดลง ได้เล่าเหตุการณ์ตอนที่เกิดลูกระเบิดให้ทางฝั่งทูตนานาชาติ สื่อมวลชนจากต่างประเทศ และจากประเทศไทย ฟังทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุมีผู้มาใช้บริการทั้งเติมน้ำมัน และเข้าร้านสะดวกซื้อ และร้านกาแฟเป็นจำนวนมาก พอสักพักผู้ใช้บริการเริ่มลดลง ได้ไม่นานลูกระเบิดดังกล่าวก็ตกลงมาที่ร้านสะดวกซื้อโดยไม่รู้ตัว ตนเห็นกับตา ไฟจากแรงระเบิดเริ่มลุกลามพุ่งขึ้นหลังคาและสูงขึ้นไปบนฟ้า ตอนนั้นตนรีบเข้ามาในปั๊มและมารับลูกสาวที่อยู่ในปั๊ม และบอกให้พนักงานในปั๊มทุกคนรีบออกจากปั๊มโดยด่วน ซึ่งพนักงานได้เข้ามาแจ้งกับตนว่าไม่สามารถช่วยคนในร้านสะดวกซื้อที่ถูกระเบิดลงได้ เนื่องจากไฟกำลังลุกไหม้อย่างหนัก และคนข้างในสลบ โดยการสูญเสียในครั้งนี้มันมหาศาลมาก ตนได้เห็นคลิปการเกิดเหตุทุกอย่าง และได้ให้คลิปกับพี่น้องสื่อมวลชนไปแล้ว ซึ่งสิ่งที่ผู้สูญเสียได้รับตอนนี้มันไม่มีค่าเลย ถ้าเทียบกับความสุขของครอบครัว ตนอยากประกาศให้โลกได้รับรู้ว่าฝั่งไทยไม่ได้ยิงปะทะก่อน กัมพูชาเป็นฝ่ายยิงก่อน จนทำให้เด็ก ประชาชน ที่ไม่รู้เรื่องบาดเจ็บและเสียชีวิต มีแม่ที่กอดลูกไว้และยอมตายเพื่อจะปกป้องลูกจากเหตุการณ์นี้ อยากให้ทูตต่างชาติที่ลงมาในครั้งนี้โปรดเข้าใจประเทศไทยเราด้วย ต่อมา คณะทูต-คณะทูตทหาร กว่า 24 ชาติ พร้อมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และสื่อในประเทศไทย ได้เดินทางไปดูความเสียหายของ รพ.สต.ชำเม็ง ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งพบว่า รพ.สต.ดังกล่าวถูกลูกระเบิดและสะเก็ดระเบิดตกใส่ตัวอาคาร ข้าวของภายในอาคาร และเครื่องมือทางการแพทย์พังเสียหายทั้งหมด โชคดีจุด รพ.สต. ตรงนี้ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต หลังจากนั้น คณะทูต-คณะทูตทหาร กว่า 24 ชาติ พร้อมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และสื่อในประเทศไทย ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้อพยพที่ศูนย์พักพิงในอำเภอกันทรลักษ์ เพื่อให้กำลังใจ และรับฟังสภาพปัญหา ข้อคิดเห็นจากผู้อพยพด้วยตัวเอง ก่อนที่คณะจะเดินทางกลับ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพ เปิดเผยหลังจากลงพื้นที่ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้มีที่มาจากการที่กัมพูชาใช้อาวุธลงในพื้นที่พลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องกับแนวการรบ ไม่เป็นไปตามกติกาสากล และกระทบกับหลักสิทธิมนุษยชน สำหรับทั้ง 3 จุด คือ ปั๊มน้ำมัน เพื่อให้เห็นสภาพพื้นที่จริง เพราะปั๊มน้ำมันอยู่ห่างจากแนวชายแดน หรือการใช้กำลังทางทหารกว่า 30กิโลเมตร ส่วนจุดที่ 2 โรงพยาบาล ซึ่งมีความสำคัญมากในกฎหมายสากล สถานพยาบาลได้รับผลกระทบ เพียงแต่การบริหารจัดการทางทหาร และฝ่ายปกครองทหารไทยในพื้นที่ส่วนหลัง ได้ทำการอพยพไปก่อนแล้ว จึงทำให้ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนจุดที่ 3มีผลกระทบเช่นเดียวกันจากการใช้อาวุธของฝั่งกัมพูชา ทำให้เกิดผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง เกินกว่าคนที่ควรจะเป็น เกินขอบเขตตามที่กฎหมายสากลระบุไว้ เกินกว่าในพื้นที่การรบ ทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากเกินความจำเป็นที่ควรจะเป็น ขณะนี้ ด้วยการบริหารจัดการของฝ่ายบริหาร และฝ่ายมหาดไทยในพื้นที่ พยายามบริหารพื้นที่ส่วนหลังให้ดีที่สุด พล.ต.วินธัย ย้ำว่า กิจกรรมในวันนี้ต้องการสื่อให้เห็นข้อเท็จจริง จะไม่มีการบิดเบือน หรือปรุงแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น นอกเหนือจากในประเทศแล้ว ยังต้องการสื่อถึงประชาคม หรือสังคมโลก ให้ได้รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยนั้น ประเทศไทยคือผู้ที่ถูกกระทำ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องจะนำเสนอข้อมูล และข้อเท็จจริงเหล่านี้ไปสู่สังคมโลก เพื่อให้เห็นว่าประเทศไทยอยู่ในกรอบกติกาของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ภาพ-ข่าว จิรภัทร หมายสุข ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ
♬ เสียงต้นฉบับ – TONGJUDKADHAD NEWS – TONGJUDKADHAD NEWS
ภาพ-ข่าว จิรภัทร หมายสุข ผู้สื่อข่าว จ.ศรีสะเกษ