นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ ทูตสเปเชียลโอลิมปิคไทย ได้เป็นประธานเปิด การแข่งขันมหกรรมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคไทยชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2568 สมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทยจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคไทยชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2568 จัดขึ้น ระหว่าง วันที่ 21-24 กรกฎาคม นี้ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จังหวัดปทุมธานี มีการแข่งขัน 6 ชนิดกีฬา คือแบดมินตัน บอชชี่ ฟุตบอล ว่ายน้ำบาสเกตบอล และ คริกเก็ต ในงานนี้มีนักกีฬา เข้าแข่งขัน 881 คน จาก75 สถาบัน ใน 38 จังหวัด พร้อมด้วย โค้ช 349 คนอาสาสมัครจัดงาน 151 คน และ กรรมการจัดแข่งขัน 99 คน รวม 1,480 คน โดยในครั้งนี้มีการคัดนักกีฬาฟุตบอลตัวแทนนักกีฬาไปแข่งขัน Southeast Asia Football ที่อินโดนีเซีย ปลายปีนี้ด้วย


สมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เป็นองค์กรที่รับผิดชอบการพัฒนาทักษะ และความสามารถทางกีฬา ของบุคลากรที่พิการทางสติปัญญา ตลอดเวลาที่ผ่านมากว่า 30 ปี ทางสมาคมฯ ได้ดำเนินการด้านกิจกรรมกีฬา และกิจกรรมสุขภาพ ให้กับนักกีฬาที่พิการทางสติปัญญา ซึ่งเป็นกลุ่มผู้พิการที่เปราะบางที่สุดของสังคม และก็มีมากที่สุด ในทุกจังหวัดของประเทศไทย


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และ ทูตสเปเชียลโอลิมปิคไทย กล่าวว่า ผมได้รู้จักกับองค์กร สเปเชียลโอลิมปิคไทย ในช่วงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยผมได้รับเชิญให้เปิดการแข่งขันกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งชาติ ในปี 2553 ซึ่งผมจำได้แม่นเพราะวันนั้นพอดีเป็นวันเกิดของผม และ ผมดีใจจริงๆที่ได้มีโอกาสพบกับนักกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคที่มาจากทุกภาคของประเทศไทย แม้ว่าเวลาจะผ่านไป 15 ปี ก็ตาม แต่ “เส้นทาง” ที่ผู้พิการทางสติปัญญาคนหนึ่ง จะได้รับการพัฒนาทักษะและความสามารถทางกีฬา ไต่เต้าจากการแข่งขันในระดับจังหวัด ไประดับภูมิภาค สู่ระดับประเทศ นั้น ก็ยังต้องเกิดขึ้นจากความมานะอุตสาหะของนักกีฬาผู้นั้นเอง เหมือนน้องๆนักกีฬาหลายคนจากพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศที่ได้มีโอกาสมาแข่งขันกีฬารายการนี้ ผมเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสมาเปิดการแข่งขันมหกรรมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคไทยชิงแชมป์ประเทศไทย และรู้สึกดีใจมากที่ได้มาพบปะกับน้องๆนักกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคอีกครั้งหนึ่ง


ดร.นริศ ชัยสูตร นายกสมาคมกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าการจัดการแข่งขันครั้งเป็นรายการที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับนักกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคจากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะเป็นการประเมินความสามารถทางทักษะกีฬาของผู้เข้าแข่งขันแล้ว ยังเป็นโอกาสผูกมิตรใหม่ สร้างความสามัคคี และ แสดงน้ำใจสปิริตของการแข่งขันกีฬาที่ดีต่อกันและกัน สำหรับในการแข่งขันปีนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายกีฬา ของ Special Olympics Asia Pacific เข้าร่วมสังเกตการณ์เพื่อประเมิน มาตรฐานการจัดแข่งขันและคัดตัวนักกีฬาสเปเชียลโอลิมปิคของเราอีกด้วย ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักของรายการ มูลนิธิกรุงศรี ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ช่วยเปิดโอกาสให้นักกีฬาผู้พิการทางสติปัญญาของไทยได้แข่งขันเพื่อพัฒนาและแสดงความสามารถให้ประจักษ์ต่อสาธารณชน