ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางพิศสมัย ศรีสวัสดิ์ อายุ 62 ปี และนายพลกฤษณ์ เพชร์คล้าย อายุ 32 ปี ว่าเมื่อช่วงเช้าเวลา 09.00 น.ได้ถูกคนร้ายเป็นชาย ชื่อนายอาม อายุ 35 ปี เดินเข้ามาภายในร้านหมูปิ้งป้าเล็กเมืองนนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้หยิบเงินสดไปจำนวน 500 บาท ซึ่งเงินเป็นธนบัตรสะสมแบงค์ 100 , 50 , 20 , 10 บาทไป แต่ทางด้านนายพลกฤษณ์ พลเมืองดีตามไปจับกุมตัวคนร้ายได้ที่บ้านของคนรู้จักกับคนร้าย ซึ่งคนร้ายได้ยอมคืนเงินจำนวนที่ขโมยไป นายพลกฤษณ์ ได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้ามาที่เกิดเหตุ แต่ทางนางพิศสมัยเจ้าของเงิน รู้สึกสงสารผู้ก่อเหตุขอร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ปล่อยตัวคนร้ายไป เนื่องจากอยากทำบุญวันเกิดของตัวเองในเดือนหน้า อยากจะเตือนภัยสังคมให้ระวังชายคนดังกล่าวเพราะก่อเหตุขโมยของบ่อยครั้ง
นางพิศมัย เล่าว่าขณะเกิดเหตุตนทำหมูอยู่หลังบ้าน แต่ได้ยินเสียงมีคนเดินเข้ามาจากหน้าบ้าน จึงออกมาดูพบว่ามีคนร้ายเข้ามาภายในบ้าน และเงินในกระเป๋าหายไปจึงวิ่งตามคนร้ายตะโกนเรียกให้หยุดถามคนร้ายว่าเข้ามาขโมยเงินทำไม คนร้ายสำนึกผิดยกมือไหว้ขอโทษ และวิ่งหนีไปซึ่งเงินที่ถูกขโมยเป็นเงินสะสม ตนไม่ได้พกเงินสดเยอะ คาดว่าคนร้ายมาดูราดราวไว้แล้ว แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์พลเมืองดีเรียกทางเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้ามา แต่ตนขอไม่เอาเรื่องเพราะสงสารและจะทำบุญวันเกิดในเดือนหน้า ทางตำรวจได้จับไปที่โรงพักแล้ว แต่ตนขอให้ปล่อยเพราะคนร้ายคืนเงินให้แล้ว ตั้งแต่ตนอยู่ร้านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
ทางด้านนายพลกฤษณ์ พลเมืองดีวิ่งไปจับคนร้าย เล่าว่า ตนเข้ามาที่ร้านหลังจากที่แฟนโทรมาบอกว่าป้าโดนขโมยเงิน ตนจึงไล่ตามและถามวินจยย. ปรากฏว่าคนร้ายไปอยู่ตรงหน้าวิน แฟนตนลงไปถามว่าขโมยเงินมาหรือแต่เขาโกหกว่าไม่ได้ขโมยแล้วก็วิ่งหนีตนจึงวิ่งตาม ไปถึงหน้า วัดทินกร และเข้าไปหลบในบ้านคนรู้จักตนตามเข้าไปไม่ได้เพราะเจ้าของบ้านไม่ให้เข้าจึงโทรเรียกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเค้นถามคนร้ายหลังจากที่ตำรวจมา เขาถึงยอมรับว่าขโมยเงินมาจริง แต่เอาเงินคืนป้าไปแล้วและโวยวายหาว่าตนเข้าบ้านเขา ตนจึงเรียกผู้เสียหายมาแต่ทางป้าไม่เอาเรื่อง ซึ่งพฤติกรมมของคนร้ายเหมือนมีอาการหลอนไม่รู้ว่าเสพยาหรือไม่ แต่ป้าผู้เสียหายบอกกับตนว่าตอนมาขโมยเงินใส่เสื้อสีขาว แต่ตอนไปเจอเปลี่ยนเสื้อเป็นสีน้ำเงิน ตนคาดว่าขโมยเป็นมืออาชีพตนรู้จักคนร้ายชื่ออามอาศัยอยู่ภายในซอยที่เกิดเหตุ เก็บของเก่าลักเล็กขโมยน้อยตนอยากให้ออกสื่อเพื่อเป็นการเตือนภัยสังคม
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงโต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี