ที่ สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด , พ.ต.ต.ดิลก ลาดศิลา สว.สส.สภ.ปากเกร็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ร่วมกับจับกุม 1.นาย VICHITH อายุ 25 ปี สัญชาติ ลาว 2.นาย SONEXAY อายุ 20 ปี สัญชาติ ลาว3.นาย SIPHAVANH อายุ 24 ปี สัญชาติ ลาว จับกุมตัวได้ที่ ห้องเช่าไม่ชื่อภายในซอยอินทรามระ 7 ถ.สุทธิสาร แขวงดินดินแดง เขตดินแดงกทม.เวลา14.50น. ต่อเนื่อง บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ภายในซอยสมเด็จเจ้าพระยา 13 แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กทม. เวลา 16.20 น. ต่อเนื่องห้องเช่า ภายในบ้านเลขที่ 590 ซอยประชาสงเคราะห์ แขวงดินแดงเขตดินแดง กทม. เวลา 17.45 น. สืบเนื่องจากวันที่ 4 มิ.ย.68 เวลา 12.00น.ที่บริเวณจุดจอดรถจักรยานยนต์หอพักมายเฮาส์ ม.5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ก่อเหตุขโมย รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ เวฟ 110 ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กฮ 6016 บุรีรัมย์ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

ภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 02.00 น. ได้มีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 2 คนมาก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี พบว่ากลุ่มคนร้ายที่มาก่อเหตุมีจำนวน 3 คน โดยขับขี่รถจักรยานยนตถของผู้เสียหายหลบหนีไป และร่วมกันไปก่อเหตุลักทรัพย์ ที่บริเวณลานจอดรถวัดกลางเกร็ด ม.1 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อีกจำนวน 2 คัน และขับหลบหนีไป นั้น ต่อมา วันนี้ ( 10 มิ.ย.2568) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายที่มาก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บริเวณ ห้องเช่าไม่ชื่อภายในซอยอินทรามระ 47 ถ.สุทธิสาร แขวงดินดินแดง เขตดินแดง กทม.

จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เล่าว่า ตนยอมรับก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง วันที่ก่อเหตุตนนั่งรถมากับเพื่อน เรียกรถจากแอปพิเคชั่นจากแถวลาดพร้าว หลังจากนั้นนั่งมาลงที่หน้าเมเจอร์ปากเกร็ดกับเพื่อน 3 คน และนั่งวินจากหลังเมเจอร์ มาที่วัดกลางเกร็ด และไปก่อเหตุขโมยรถจยย.เป็นรถเวฟ ตนและเพื่อนใช้อุปกรณ์ต่อตรง และสตาร์ทรถแล้วรีบขับหนีออกไป ซึ่งหลังจากที่ตนขโมยรถมาได้นำรถจยย. ส่งไปที่นายหน้า ซึ่งนายหน้าเป็นคนไทยจะขับรถกระบะตู้ทึบเข้ามารับรถจยย. ที่ขโมยมาเอาข้ามไปฝั่งลาว และนายหน้าจะให้ค่าหัวพวกตนหัวละ 500 บาท ส่วนลดที่หามาจากการขโมยตนจะได้คันละ 18,000 บาท ซึ่งตนส่งออกไปทั้งหมดแล้วประมาณ 5 คัน ได้เงินมาทั้งหมดแค่ 36,000บาท แต่ที่เหลือยังไม่ได้มา มาโดนจับก่อน ซึ่งตนเคยทำงานเป็นรปภ.มาก่อน แต่มารู้จักกับนายหน้าผ่านใน Facebook จึงหารถขโมยและส่งไปให้เขา ซึ่งตนก็รู้สึกผิดและอยากจะขอโทษผู้เสียหาย
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี