Statistiche web
อุดรธานี.อ.ต.ก.พาเหรดสินค้าเกษตรคุณภาพสูง ของดี ของอร่อย ชวนมาชิปชมในงาน “ปักหมุดที่ ผลไม้ของดีถิ่นอีสาน”

ณ ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุดรธานีโดยนายเอกภาพ พลซื่อโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดงานพร้อมด้วยนายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.)และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประกอบพิธีเปิดงาน

 นายปณิธาน มีไชยโย..เปิดเผยว่า ในปี 2568 เกษตรและสหกรณ์ได้ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการผลไม้ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่ผลผลิตฤดูกาลใหม่ที่จะออกสู่ตลาด ซึ่งในปีนี้องค์การตลลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จึงได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมตลาดผู้บริโภคผลไม้ไทย โดยวัตถุประสงค์เพื่อสร้างช่องทางการจำหน่ายผลไม้ และช่วยกระจายผลผลผลิผลไม้ออกนอกแหล่งผลิตในช่วงผลผลิตออกมากในฤดูศาล ตลอดจนเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลผลิตผลไม้ทั้งสดและแปรรูปของเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสถาบันเกษตรกร ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค เพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายและแผนงานให้เป็นตามวัตถุประสงค์และเข้าหมายที่กำหนดไว้

ซึ่งในปีนี้ อ.ต.ก. จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดผู้บริโภคผลไม้ไทย นำร่องในพื้นพื้นที่ กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “ปักหมุดผลไม้ของดีถิ่นอีสาน” ภายใต้แนวคิด อ.ต.ก.แฟร์ 4 ภาค ระหว่างวันที่ 2-8 พ.ค.2568 โดยภายในงานจะมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ รวมถึงสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่น ของเกษตรกร วิสาหกิจชุมชุมชน และสถาบันเกษตรกร ผู้ปลูกผลไม้และผลิตสิตสินค้าผลไม้แปรรูป รวมทั้งนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการผลิต รวมถึงสินค้าเกษตรคุณภาพมาตรฐาน

ด้านการเกษตร ส่งเสริมกิจกรรมภาคการเกษตร ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ซึ่งจัดขึ้น ณ ทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีพื้นที่จัดงานกว่า 5,000 ตารางเมตร มีบูธจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรกว่า 50 บูธ ทั้งนี้ อ.ต.ก.ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาร่วมสนับสนุนและสร้างโอกาลให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสถาบันเกษตรกร ในการนำผลผลิตผลไม้ทั้งสดและแปรรูปมาจัดแสดแสดงและจำหน่ายในงานนี้ด้วย

“นอกจากนี้ อ.ต.ก. ยังจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดผู้บริโภคผลไม้ไทยในแต่ละภาคทั่วประเทศ ได้แก่ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคใต้ โดยจะพิจารณาจากช่วงเวลาและปรีมาณผลผลิตผลไม้เศรษฐกิจหลักของประเทศที่ออกมากในฤดูกาลของแต่ละภาค เพื่อเป็นแผนรองรับในการช่วยกระจายผลผลิตผลไม้ออกนอกแหล่งผลิตในช่วงผลผลิตออกมากในฤดูกาลให้กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และสถาบันเกษตรกร ซึ่งตนเชื่อว่างานนี้จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ส่งเสริมการประกอบอาชีพเสริม เชื่อมโยงการตลาด โดยใช้กลไกการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สร้างโอกาสให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สถาบันเกษตรตะ งพิมช่องทางการกระจายสินค้าเกษตร เชื่อมโยงภาคผลิตสู่การตลาดแบบครบวงจร ก่อให้เกิดการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง และสร้างรายได้ทีแน่นอนให้แก่แกษตรกร”