จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “มีใครรู้จักไหมครับ มีค่าเสียเวลาให้ ชนแล้วหนี สนามกอล์ฟ“ ภาพจากกล้องวงจรปิด วันที่ 28 เม.ย. 68 เวลา 12.19 น. จับภาพรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ผจ 1238 เพชรบูรณ์ ซึ่งจอดไว้บริเวณริมถนนในซอย จากนั้นจะเห็นไรเดอร์ ค่ายสีเขียว ขับขี่รถจยย. (ไม่ทราบรุ่นและยี่ห้อ) สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 2 ขศ 2789 กทม. เลี้ยวมาตามทางก่อนจะชนเข้าอย่างแรงบริเวณท้ายรถกระบะ ทำให้ไรเดอร์เสียหลัก รีบประคองรถและขับขี่หลบหนีไป

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ บริเวณหลังสนามกอล์ฟ กรมชลประทาน (ซอยต้นสน) ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบนายบุญช่วย อาจโวหาร อายุ 60 ปี พ่อของเจ้าของรถ กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกเสียใจ เพราะรถกระบะคันนี้เพิ่งออกมา ลูกชายจะนำมาเยี่ยมตนเวลาหยุดงาน จะจอดไว้ข้างถนนเพราะคิดว่าก็เป็นพื้นที่ว่าง ไม่มีรถอะไรที่สามารถจะมาชนได้ และมีกล้องวงจรปิด วันเกิดเหตุพบว่าเป็นรถจยย.ของไรเดอร์ชนและหนีไปทันที อยากให้เข้ามารับผิดชอบ ถามไถ่กันบ้าง เพราะรถก็ไม่ใช่ถูกๆ ดูแลรถมาเป็นอย่างดี รถเสียหายตรงช่วงไฟท้ายแตก มีรอยขีดข่วน ตอนนี้ได้ทำการติดต่อประกันแล้ว อยากให้คนชนออกมารับผิดชอบเพราะตอนนี้แจ้งความแล้ว ที่สภ.ปากเกร็ด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าจะตามเรื่องให้ ส่วนลูกชายก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด หากมีการเข้ามาพูดคุยก็จะขอดูเหตุการณ์อีกทีว่าเสียน้อยเสียมากเท่าไหร่ ต้องให้ประกันตรวจสอบก่อน จึงจะตัดสินใจได้ ฝากถึงไรเดอร์ขอให้เข้ามารับผิดชอบ เพราะจรรยาบรรณของคนไทยควรจะมีความรับผิดชอบ มาพูดเจรจาไกล่เกลี่ยให้เข้าใจกันดีกว่า เพราะทุกคนทำมาหากินเหมือนกัน


ด้าน น.ส.สุภาวดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ และเป็นญาติกับเจ้าของรถ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย. เวลาประมาณเที่ยงกว่าๆ ได้ยินเสียงดังปั้ง ตอนแรกนึกว่ารถชนกัน แต่เห็นหลังไวๆเป็นรถจยย.ขับขี่ออกไป ลักษณะแต่งตัวคล้ายไรเดอร์สีเขียว ซึ่งรถกระบะคันดังกล่าวเป็นของเด็กในซอย รู้จักกัน ตอนนี้คุณพ่อของเจ้าของรถกระบะรับรู้เรื่องแล้ว ปกติถ้าตรงนี้มีคนมาจอด ก็จะย้ายไปจอดตรงอื่น ไม่ค่อยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น รู้สึกสงสารเจ้าของรถเพราะก็จอดอยู่เฉยๆ ดันมีรถจยย.มาชน แทนที่จะลงมาดูก็ไม่ทำ เลือกที่จะขับขี่หนีออกไป ตอนนี้ได้กล้องวงจรปิดแล้ว เจ้าของรถก็รักษาและดูแลอย่างดี อยากให้มาแสดงความรับผิดชอบ มาถามไถ่ก็ยังดี หากมาแสดงความรับผิดชอบก็จะไม่เอาความ แต่หากยังไม่มาจะดำเนินการให้ถึงที่สุด แล้วก็อยากให้ระมัดระวังไม่อยากให้มีครั้งต่อไป เพราะก็สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี