พ.ต.อ.ภูมิรที ผลาภูมิ ผกก.สภ. ทัพทัน ได้เดินทางมายังบ้านของนางสาวนงลักษณ์ เพื่อมาร่วมแสดงความเสียใจ ก่อนพูดคุยกับแม่ของนางสาวนงลักษณ์ และมีการร่วมจุดธูปไหว้ศพ อีกทั้งได้ช่วยเหลือเงินส่วนตัวในการทำบุญงานศพของนางสาวนงลักษณ์ ที่ทำให้เหตุการณ์ดังกล่าวมันเกิดขึ้นในพื้นที่ของตัวเอง โดยขอโทษที่ไม่สามารถดูแลประชาชนให้ดีได้ พร้อมทั้งแจ้งกลับแม่ของน้องสาวนงลักษณ์ ว่าในวันสวดคืนสุดท้าย ตนเองขอเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพหนึ่งคืน ด้านของแม่นางสาวนงลักษณ์ ก็กล่าวขอบคุณอย่างสุดซึ้ง

ด้าน พ.ต.อ.ภูมิรที ผลาภูมิ ผกก.สภ. ทัพทัน เผยว่า ตนเอง เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณหนึ่งเดือน ก็เกิดเหตุสลดขึ้นในพื้นที่ของตัวเองแล้ว โดยเบื้องต้นพบว่าทางด้านของนายมนต์ชัยนั้น มีพฤติกรรมแบบนี้มานาน ทั้งมีการข่มขู่ นำอาวุธปืนมายิงครอบครัวของนางสาวนงลักษณ์ ซึ่งตอนนั้นได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ ในเรื่องของการใช้อาวุธปืนข่มขู่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอน และมีการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว โดยพบว่าพฤติกรรมของนายมนต์ชัยเป็นคนชอบอาวุธปืนแต่นิสัยส่วนตัวจะไม่เก็บอาวุธไว้ในบ้านแต่จะนำไปซ่อนไว้ตามทุ่งนา ก่อนจะตรวจสอบพบว่านายมนต์ชัยมีอาวุธปืนทั้งหมดสองกระบอกและได้ทำการตรวจยึดไว้แล้ว

ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไม่มีทะเบียน และนายบุญชัยไม่เคยมีใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนได้ จึงถือว่าผิดกฎหมาย ทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำสำนวน และอยู่ในขั้นตอนของการส่งฟ้อง โดยเบื้องต้นทางอัยการได้ส่งสำนวนกลับให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาพกพาอาวุธปืนเพิ่มเติม จากเดิมที่ แจ้งข้อกล่าวหาครอบครองอาวุธปืนและข่มขู่คุกคาม โดยเมื่อวานนี้ทางตำรวจได้มีการออกหมายเรียกให้นายมนต์ชัยมารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมนี่จึงอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้นายมนต์ชัยไม่พอใจนางสาวนงลักษณ์ และมีปากเสียงกันในประเด็นที่นางสาวนงลักษณ์เป็นคนไปแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ คาดว่ายนายมนต์ชัยเกรงว่าตนเองจะต้องติดคุก รวมกับประเด็นของความหึงหวง ที่นายมนต์ชัยมีมาตลอดก่อนหน้านี้ จึงทำให้เกิดเหตุสลดครั้งนี้ขึ้น แต่ในส่วนที่นายมนต์ชัยเคยมาใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ที่บ้านของนางสาวนงลักษณ์ 9 นัด ช่วงก่อนหน้านี้นั้น ตนเองไม่ได้อยู่ประจำการ เนื่องจากเพิ่งย้ายมา แต่จากการตรวจสอบ พบว่าทางด้านของครอบครัวนางสาวนงลักษณ์นั้น ไม่ได้เข้าแจ้งความ จึงไม่ได้ดำเนินคดีในเรื่องนั้น
นายพชร พัสกุล สมาคมสื่อมงชนอุทัยธานี