จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “ข่าวคนนนท์” ได้เผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิดเตือนภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ หลังมีชายคนร้ายรายหนึ่งเดินเท้าเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ โดยขโมยชุดชั้นในของผู้เสียหายที่ตากไว้บนราวเกือบ 10 ตัว ก่อนจะรีบเดินหลบหนีออกไปอย่างใจเย็น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 01.50 น. ภายในซอยบางศรีเมือง 1/19 ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ที่บ้านเลขที่ 71/20 ซอยดงตาล 1/19 พบกับ นายมานพ อุปเทศ อายุ 56 ปี อาชีพ จยย.รับจ้าง เจ้าของบ้านและเป็นผู้เสียหาย เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า คืนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 01.50 น. ตนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้าน และพบว่าคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40 ปี รูปร่างผอม สูงประมาณ 170 ซม. สวมหมวกแก๊ป เดินเท้าเข้ามาภายในบริเวณบ้านโดยไม่เกรงกลัวกล้องวงจรปิดแม้แต่น้อย โดยเดินมาแบบไม่แคร์อะไรเลย ทั้งที่มีกล้อง 2 ตัวติดอยู่ตรงนั้น จากนั้นไก้เดินอ้อมเข้ามาทางด้านข้าง ก่อนเดินตรงไปที่ราวตากผ้า ก่อนจะยืนดูเสื้อในว่ามีกี่ตัว แล้วก็หยิบไปหมดเลยประมาณ 6 ตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ภรรยาตนก็เคยถูกก่อเหตุมาแล้ว 1 ครั้งโดยครั้งแรกมันหยิบไป 7 ตัว ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด แต่ผ่านไปไม่นานคนร้ายกลับมาก่อเหตุอีก รอบนี้หยิบไปอีก 6 จนทำให้ภรรยาเดือดร้อนเสียเงินซื้อชุดชั้นในใหม่ทั้งหมด
นายมานพ กล่าวต่อว่า ชุดชั้นในที่หายไปทั้งหมดเป็นของภรรยา ตนเองยังไม่ไปแจ้งความเพราะว่าสงสารคนก่อเหตุถูกจับไปคงรู้สึกอับอาย ลูกหลานหรือครอบครัวของเขาจะรู้ จึงเลือกที่จะติดป้ายเตือนเขียนว่า ”ไอ้โจรกระจอกลักกระทั่งเสื้อใน“ และ “อย่าหาทำ เสื้อในกางเกงในเค้า ที่นี่มีกล้อง ถูกก่อเหตุ 2 ครั้งแล้ว” และติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเพื่อเป็นการป้องปราม แต่หากยังเกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง ตนคงต้องแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายที่สภ.บางศรีเมือง ตอนนี้ยังให้โอกาส นำเรื่องมาเตือนภัยสังคมผ่านสื่อ
ส่วนสาเหตุที่คนร้ายลักขโมยเพียงเสื้อในของภรรยาเชื่อว่าคงมีอาการทางจิต ซึ่งหน้าบ้านตนได้วางทรัพย์สินย์ไว้หลายอย่าง จอดรถจยย. 4 คัน หมวกกันน็อคก็วางตามปกติ แต่กลับไม่มีอะไรหายนอกจากเสื้อใน ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ถ้าไม่มีก็มาขอกันดี ๆ มันเป็นเรื่องน่าอาย ไม่ใช่แค่ตัวคนทำเอง แต่จะอายไปถึงลูกถึงเมียด้วย
เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นบุคคลในพื้นที่ หรือรู้พฤติกรรมของคนในบ้านเป็นอย่างดี เนื่องจากมุ่งตรงมาที่ราวตากผ้าทันทีโดยไม่ลังเล ทั้งนี้ สุดท้ายอยากจะฝากเตือนไปยังชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงให้เพิ่มความระมัดระวังในการตากเสื้อผ้าในช่วงเวลากลางคืน และอย่าไปหาทำแบบนี้กับใครอีก
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี