ในเขตตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ใครที่ตื่นมาเช้านี้(วันที่ 4 เมษายน 2568) ต้องตกใจไปตามๆ กัน เพราะพบว่าสภาพทั้งตัวเมืองเต็มไปด้วยหมอกควันจากไฟป่าอย่างหนัก ผู้คนเดือดร้อนและมีอุปสรรคในการดำรงชีวิตปกติประจำวันกันยากมาก

โดยจะพบว่าทัศนียภาพของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ที่มองจากภาพมุมสูงจะไม่พบแนวสันเขาที่อยู่ด้านทิศตะวันออกหรือด้านทิศเหนือของท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอนแล้ว และที่สำคัญก็ยังมองไม่เห็นวัดพระธาตุดอยกองมูด้วยเช่นกัน ซึ่งถือว่าวันนี้เป็นวันที่หมอกควันคละคลุ้งเต็มเมืองหนักที่สุด ผลกระทบหนักกับชาวบ้านและผู้ที่ต้องเดินทาง ที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางและต้องเปิดไฟหน้ารถ นอกจากนี้ต้องหาหน้ากากอนามัยป้องกัน PM2.5 หรือแบบ N95 มาสวมใส่ป้องกันสุขภาพกันแล้ว

จากปัญหาของการลักลอบจุดไฟตลอดห้วงเวลา 3-4 วันที่ผ่านมา ส่งผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะประกาศใช้ทุกมาตรการ ทั้งการเข้าถึงจุดเกิดไฟและดับให้เร็วขึ้น การระดมกำลังและอุปกรณ์ทั้งหมดเข้าจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมงแล้วก็ตาม รวมถึงการใช้เครื่องบินเพื่อนำน้ำบินขึ้นไปดับไฟยังจุดที่เข้าถึงยากหรือบนยอดดอยสูงมาแล้วหลายวัน แต่ภาพที่เกิดขึ้นกลับยิ่งเป็นปัญหาหนักขึ้น

ปัญหาหลักนอกจากชาวบ้านพื้นที่โดยรอบตัวเมืองต้องเร่งจัดการกับวัชพืชในพื้นที่การเกษตรของตนเอง ที่ถูกสั่งห้ามเผามาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา แต่ที่ต้องเร่งแก้และจัดการอย่างเร่งด่วนก็คือ มีบุคคลบางกลุ่มลักลอบจัดไฟตามแนวถนนหลวงหรือตามเส้นทางมากผิดปกติ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวได้เลย จึงส่งผลกระทบหนักอย่างวันนี้และมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงหนักขึ้น หากยังไม่มีแนวทางอื่นหรือไม่มีฝนตกลงมาช่วยแก้ไขปัญหาในพื้นที่โดยเร็วที่สุด
วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน