ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับรายงานด่วนว่าพบไฟป่ากำลังลุกลามอย่างหนัก ที่บริเวณสันดอยด้านหลังของสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง ซึ่งอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอนและองค์การบริหารส่วนตำบลปางหมู หลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อขอรดมรถน้ำจากทหารและหน่วยงานราชการใกล้เคียงในพื้นที่ พร้อมกับขอกำลังสนับสนุนชุดดับไฟจากสำนักงานควบคุมไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เดินทางเข้าไปยังพื้นที่ที่ได้รับแจ้งทันทีและนายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก็ได้ลงบัญชาการเหตุการณ์ด้วยตนเองยังที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ดอยสูงและรายล้อมไปด้วยที่ตั้งของสำนักงานต่างๆ หลายหน่วยงาน พบว่าไฟป่าได้ลุกลามเป็นแนวยาวและมีท่าทีว่าจะลุกลามลงมาติดกับบ้านพักของเจ้าหน้าที่ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงได้ให้กำลังของเสือไฟเร่งนำเครื่องเป่าลมและอุปกรณ์ดับไฟขึ้นไปยังจุดต้นเพลิงให้เร็วที่สุดและให้รถน้ำนับ 10 คัน เข้าทำการฉีดพ่นน้ำช่วยดับไฟป่าที่กำลังจะลุกลามลงมาติดบ้านพักของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังให้กำลังพลจากชุดดับไฟจิตอาสาเข้าพื้นที่เสริมกำลังของเจ้าหน้าที่ เพราะขณะที่ไฟป่ากำลังลุกลามนั้นยังคงมีกระแสลมมาช่วยทำให้ไฟป่าลุกลามได้เร็วขึ้นด้วย

ทำให้การดับไฟนอกจากจะต้องเร่งทำงานแข่งกับเวลาแล้วยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกคนและพนักงานดับไฟป่าเป็นสำคัญ ผลจากไฟป่าในครั้งนี้ต้องใช้เวลาในการเข้าดับไฟกันนานกว่า 3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมไฟให้อยู่ในวงจำกัดได้ พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายไปกว่า 80 ไร่ นอกจากนี้ยังพบพื้นที่ป่าใกล้เคียงกันทั้งที่ในพื้นที่ป่าด้านหลังของโรงพยาบาลธัญญลักษณ์ หมู่ที่ 6 บ้านชานเมือง ตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ที่แนวไฟป่าลุกลามเป็นแนวยาวขึ้นบนดอยสูง ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนสั่งการให้ทุกหน่วยเข้าดำเนินการดับไฟให้ลงโดยเร็ว เพราะว่าขณะนี้ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเองกำลังประสบกับปัญหาหมอกควันจากไฟป่าปกคลุมอย่างหนักติดต่อกันกว่า 4 วันแล้วและพบว่าค่าฝุ่นละอองในอากาศหรือ PM2.5 สูงลิ่วต่อเนื่องขึ้นด้วยเช่นกัน ที่นอกจากดับไฟลงแล้วยังต้องจัดคนเฝ้าระวังการลักลอบกลับมาเผาซ้ำอีกทางหนึ่งด้วย
วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน