ในช่วงหลายวันที่ผ่านมามีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวร้องเรียนไปยังตำรวจและเจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าพบพระทำทีเหมือนเดินธุดงค์ยืนถือขวดน้ำเปล่าโบกรถคล้ายขอความช่วยเหลือว่าน้ำหมด แต่พอญาติโยมหรือผู้คนที่ผ่านไปมาจอดรถเพื่อจะถวายน้ำกลับถูกบ่ายเบี่ยงว่าขอรับการสนับสนุนเป็นปัจจัยหรือเงินแทน สร้างความเดือดร้อนและเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตามถนนหลวงหมายเลข 1095 สายแม่ฮ่องสอนไปยังอำเภอปาย รวมถึงสาย 108 จากแม่ฮ่องสอนไปยังอำเภอแม่สะเรียง จนกระทั่งมีคนสังเกตว่าไม่น่าจะเป็นพระธุดงค์ เนื่องจากจะมีรถกระบะคอยตามอยู่ห่างๆ หรือบางครั้งจะนำเอาชายห่มผ้าเหลืองอีก 2-3 คน ไปกระจายยังจุดที่ห่างๆ กันออกไป


จนกระทั่งช่วงบ่ายของวันนี้ (วันที่ 27 มีนาคม 2568) สถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอนและเจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบชายห่มจีวรกำลังเที่ยวเดินและยินโบกรถที่ไปมาอยู่ที่ถนนหลวงสาย 1095 ช่วงระหว่างตำบลปางหมู ไปยังตำบลห้วยผา อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ทางพันตำรวจปฏิเวธ เตชะ สารวัตรปราบปราม สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน จึงเดินทางไปพร้อมกับกำลังและประสานไปยังเจ้าคณะจังหวัด เพื่อส่งพระวินยาธิการ เดินทางไปตามที่ได้รับแจ้งและซุ่มดูพฤติกรรมอยู่สักพัก ก็พบว่ามีชายแต่กายคล้ายพระทำการยินถือขวดน้ำเปล่าและโบกรถที่ผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลา จากนั้นจึงเข้าไปทำการตรวจสอบ ทันทีที่เห็นพระจริง ชายที่ห่มจีวรคล้ายพระถึงกับหน้าถอดสี เมื่อสอบถามว่ามาจากไหนหรือมีเอกสารหลักฐานอื่นๆ ที่แสดงว่าเป็นพระที่ได้รับการบวชจากพระอุปปัชฌาย์จริงหรือไม่ ชายคนดังกล่าวกลับตอบวกไปวนมา เจ้าหน้าจึงได้เชิญกลับมาตรวจสอบยังที่ทำการของพระวันยาธิการ ระหว่างที่นั่งรถไปนั้นชายคนดังกล่าวพยายามโทรศัพท์ติดต่อกับผู้คนอยู่ตลอดเวลา แต่กูเหมือนว่าจะไม่สามารถติดต่อกับพรรคพวกได้เลย ต่อมาเมื่อมาถึงยังที่ทำการของพระวินยาธิการก็มีการสอบปากคำกันอยู่นาน ในที่สุดชายคนที่ห่มผ้าเหลืองคนดังกล่าวก็คือ นายณัฐวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอแม่เปิน จังหวัดนครสวรรค์ ก็ยอมรับว่าตนเองไม่ได้บวชพระแต่อย่างใด อาศัยเดินทางมาด้วยรถกระบะกับเพื่อนอีก 4 คน ใช้วิธีการแต่งกายเหมือนพระออกทำการกระจายกันออกทำมาหากินตามเส้นทางที่มีผู้คนเดินทางผ่านมากๆ หรือเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางผ่านเยอะๆ ก่อนที่จะนำเอาขวดน้ำทำการโบกรถที่ผ่านไปมา หากใครหยุดให้การช่วยเหลือหรือสอบถามก็จะแจ้งว่าต้องการเดินทางเข้าไปที่จังหวัดเชียงใหม่และขอบริจาคเป็นเงินแทน บางคนก็ให้บางคนก็ไม่ได้ให้ ส่วนเพื่อนที่เดินทางมาด้วยกันนั้นยังไม่สามารถติดต่อได้


จากนั้นจึงทำการสึกทันทีพร้อมส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนพรรคพวกที่ร่วมขบวนการนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทุกจุดตรวจจุดสกัดทำการตรวจสอบเส้นทางไว้แล้วทั้งหมด เนื่องจากน่าจะรู้ตัวแล้วว่าหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว นอกจากนี้ทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนยังได้ประกาศแจ้งเตือนให้ผู้คนช่วยกันเป็นหูเป็นตา เฝ้าจับตาดูพวกที่อาศัยเอาผ้าเหลืองบังหน้าและหากินกับความศรัทธา จนสร้างความเสื่อมเสียกับศาสนาและสร้างความเดือดร้อนกับคนทั่วไป
วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน