หลังที่ช่วงเช้า วันที่ 11 มีนาคม 2568 มีระเบิดจากการสู้รบของทหารเมียนมากับกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ที่กำลังต่อสู่กันอย่างหนักและมีระเบิดเข้ามาตกในไร่กะหล่ำของชาวบ้านที่บ้านนาป่าแปก หมู่ที่ 4 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าของไร่จึงได้ถ่ายคลิปแล้วรีบรายงานให้กับทางอำเภอและทหาร ให้เข้ามาตรวจสอบ ต่อมามีว่าที่พันตรี ยุทธนา เจ้าดูรี นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน พร้อมกำลังของทหารจากหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท กองกำลังนเรศวร พร้อมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบพร้อมกับชาวบ้านและเจ้าของไร่

พบว่าที่กลางไร่กะหล่ำปลีของนายบรรจง เมืองเมา พบว่ามีจุดที่ได้รับความเสียหายที่กลางไร่และมีระเบิดขนาด ค.120 มม.ตกอยู่ และไม่ห่างกันมากนักก็พบชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายออกไปห่างกันราว 70 เมตร รอบๆ มีต้นกะหล่ำได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย ทางทหารจึงได้ทำการเก็บชิ้นส่วนไปทำการตรวจสอบว่าเป็นของฝ่ายไหนที่ยิงและวิถีกลับมาตกในเขตไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขอให้ผู้นำหมู่บ้าน ย้ำเตือนเกษตรกรหรือชาวบ้านที่จะออกไปในแปลงเกษตรต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น หากพบความผิดปกติหรือได้ยินเสียงของการปะทะใกล้เข้ามาในเขตไทยมากขึ้น ขอให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วน ซึ่งตลอดทั้งวันของวันนี้ก็ยังคงได้ยินเสียงการสู้รบของทั้งสองฝ่ายใกล้กับดอยสามเมืองในฝั่งเมียนมา

ด้านนายบรรจง เมืองเมา เจ้าของไร่กะหล่ำปลีที่ระเบิดตก เปิดเผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ที่ในไร่ จนกระทั่งมีเพื่อนบ้านโทรมาแจ้งให้มาดูว่ามีระเบิดตกในไร่ของตนเอง พอมาดูก็พบว่าเป็นระเบิด ค 120 จึงได้ถ่ายคลิปส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ (ระหว่างสัมภาษณ์จะได้ยินเสียงการปะทะดังอยู่ด้วย) ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ก็มาตรวจสอบและทำการเก็บกู้ออกไปทั้งหมดแล้ว เพราะมีตกลงมาเพียง 1 ลูก แต่มีชิ้นส่วนกระจัดกระจายออกไปอีกจุดไม่ห่างกันนัก ซึ่งมีเพียงกะหล่ำเสียหายเพียงเล็กน้อย

สถานการณ์ล่าสุดจนถึงเย็นวันนี้ ยังคงได้รับรายงานจากชาวบ้านว่าสามารถได้ยินเสียงของการปะทะอยู่เป็นระยะๆ ส่วนหนึ่งก็สร้างความหวั่นวิตกกับชาวบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดน เพราะเสียงของการสู้รบของทั้ง 2 ฝ่ายมีแนวโน้มจะรุนแรงหรือมีความถี่มากขึ้นที่จะกระทบกับชาวบ้านที่ออกไปทำไร่ทำสวนได้ จากการที่มีระเบิดมาตกถึงในเขตไทยครั้งนี้
วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน