ที่นครนายก บริเวณศาลากลางจังหวัดนครนายก ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีหนุ่มใหญ่ท่าทางคล้ายคนเมาเดินอยู่ในศาลากลางจังหวัดนครนายกเหมือนหาของหายทราบชื่อคือนายวิจิตร อายุ 45 ปี กำลังเดินหารถจักรยานยนต์ของตนเองก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ อส. ช่วยกันหา กันอย่างขะมักเขม้นเพราะหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอคาดว่าน่าจะถูกขโมยไป เพราะนายวิจิตรยืนยันว่าตนเองมาติดต่อราชการที่อัยการจังหวัดและยืนยันว่าตนเองนั้นขับมอเตอร์ไซค์ยี่ห้อ PCX สีขาวหมายเลขทะเบียน กง. 6026 พระนครศรีอยุธยา มาด้วยตนเองจอดเอาไว้ตรงข้างหน้าศาลากลางและเสียบกุญแจคาไว้พอกลับลงมากลับไม่เห็นรถจึงได้เดินหา หาจนทั่วศาลากลางเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ
จึงให้เจ้าหน้าที่อส .ช่วยหา แต่ก็หาไม่พบเตรียมจะไปเปิดกล้องวงจรปิดดูว่าใครเอาไป แต่ไปสอบถามเจ้าหน้าที่อัยการจังหวัดก็บอกว่านายวิจิตรนั้นมากับผู้กอง ผู้กองพามาและๆได้บอกให้นายวิจิตรนั่งรอเดี๋ยวกลับมารับ แต่นายวิจิตรก็ยืนยันว่าตนเองขับรถมาเองเชื่อว่ารถหายก่อนที่จะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยหาแต่ก็หาไม่พบเจ้าที่ตำรวจจึงแจ้งวิทยุสกัดจับทั้ง 4 อำเภอถ้าพบรถคันดังกล่าว เพราะเชื่อว่ารถถูกโจรกรรมแน่นอนจากนั้นตำรวจจึงแนะนำให้ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน นายวิจิตรได้โทรไปบอกพ่อแม่ว่ารถตัวเองว่ารถหายหาไม่เจอจะทำยังไงกลับบ้านไม่ได้พ่อแม่ก็กังวลใจเพราะตัวเองแก่แล้วไม่สามารถขับมารับนายวิจิตรได้ไปแจ้งความได้
แต่เรื่องที่เกิดมันกับตาลปัตรและโอ้ละพ่อ เป็นอย่างมากเมื่อนายวิชาญ โถมขำ เจ้าหน้าที่อส. นั้นเฉลยและเล่าให้ฟังว่ารถของนายวิจิตรไม่ได้จอดที่ศาลากลางจังหวัดแต่ไปจอดที่โรงพักสภ. เมืองนครนายกเพราะผู้หมวดเขาหวังดีพานายพิจิตรมาติดต่อราชการที่ศาลากลางเพราะดูจากสภาพนายวิจิตรแล้วสะเงาะสะแงะไม่น่าจะขับมาเองได้กลัวเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนก็เลยให้มาจอดไว้ที่โรงพักแล้วพานายวิจิตรมาด้วยกันแต่นายวิจิตรจำผิดว่าจอดรถไว้ที่ศาลากลางเกิดเป็นเหตุดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่อส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจวุ่นกันทั้งเมืองถึงกับโอ้ละพ่ออีกครั้งเมื่อผู้กองนั้นกลับมาพร้อมกุญแจรถที่นายวิจิตรอ้างว่าเสียบคาไว้ที่รถแต่อยู่ในมือของผู้กองก่อนที่จะพากลับบ้านอย่างปลอดภัย ทำเอางานนี้หัวเราะกันท้องแข็ง .
อำพล เทียนงาม นครนายก 04