จากรณี ผู้สื่อข่าวได้ขับรถยนต์ผ่านมาบนนสาย 333 บ้านไร่ – หนองฉาง หมู่ 3 ซอยหนองผักบุ้ง ต.คลองเคียน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี พบชาวบ้าน และคนงานตัดอ้อยประมาณ 3-4 คน ได้ช่วยระวังไฟทีกำลังลุกไหม้โหมหนักจากป่าอ้อย มีควันลอยสีดำลอยขึ้นฟ้าจำนวนมาก จึงสอบถามทำไม่ต้องเผา คนงานตัดอ้อยกล่าวว่าที่ต้องเผา เพราะเวลาตัดอ้อย นั้นง่าย และรวดเร็ว


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เกษตรได้แจ้งเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหา ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ภาคการเกษตร ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า เกษตรกรที่เผาในพื้นที่การเกษตรจะไม่ได้รับสิทธิในการเข้าร่วมโครงการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทุกโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2570


ล่าสุดนายประสาร นายสุริยา นาย สวง ได้เข้ามอบตัวกับนายสิริภพ นิยมเดช นายอำเภอบ้านไร่ จ.อุทัยธานี ผกก.สภ.เมืองการุ้ง เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณอุทัยธานี เจ้าหน้าที่สาธารณ์สุข หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้ง 3 คนเข้าสอบปากคำ หลังจากนั้นนายอำเภอได้ชี้แจงว่าการเผาในช่วงที่ห้ามเผามีความผิดทางอาญา อาจต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท และมีความผิด พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามเจ้าพนักงานท้องถิ่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภาพ-ข่าว พชร พัสกุล สมาคมสื่อมวลชนอุทัยธานี