ทีมข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายตยุสฐ์ชนา วณิชเศรษฐี หรือพี่ช้าง อายุ 48 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งย่านตลิ่งชัน หลังถูกลูกค้าที่นำรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง หมายเลขทะเบียน 3 ขฒ 9607 กทม. มาซ่อมที่อู่ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพ.ย. 67 โดยได้มีการขอเบิกค่าซ่อมบางส่วนล่วงหน้า แต่ลูกค้ากลับบ่ายเบี่ยง ทั้งที่รถยนต์คันดังกล่าวได้มีการตกลงซ่อม ถอดรื้อ และเปลี่ยนอะไหล่บางชิ้นส่วนแล้ว จากนั้นได้มีการพูดจาข่มขู่ จะมาเอารถคืนในยามวิกาล พาชายซึ่งอ้างตัวเป็นตำรวจบุกมาหาถึงบ้านลูกสาว รื้อค้นเอกสารในตู้จดหมาย ก่อนจะหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลไป 1 ซอง ซึ่งรู้สึกถูกคุมคาม และหวั่นไม่ได้รับความปลอดภัย เหตุเกิดบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา แจ้งความไว้ที่สภ.บางบัวทอง

ภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพที่หน้าบ้านของลูกสาวผู้เสียหาย พบรถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีดำ (ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน) ขับเข้ามาชะลออยู่ที่หน้าบ้านของผู้เสียหาย ก่อนจะขับเลยออกไป จากนั้นมีชายรูปร่างท้วม ผิวคล้ำ สวมเสื้อคอปกสีกรมท่า ใส่กางเกงขายาวสีขาว สะพายกระเป๋า เดินตรงไปที่หน้าบ้าน และรื้อค้นเอกสารในตู้จดหมาย ก่อนจะหยิบซองเอกสารสีน้ำตาลไป 1 ซอง ซึ่งระหว่างนั้นมีชายรูปร่างผอมสูง เดินตามมายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของหน้าบ้าน ชายทั้ง 2 คนได้ยืนพูดคุยกันซักพัก และชี้ไปที่บ้านของผู้เสียหาย ก่อนจะกลับออกไป

นายตยุสฐ์ชนา หรือพี่ช้าง ผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนปีใหม่ประมาณ 2 เดือน ลูกค้าโทรตามลูกเขยของตนให้นำรถไปซ่อม ตรวจเช็คระบบเกียร์ ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นที่เฟืองเกียร์ ได้แจ้งลูกค้ากลับไปว่ามีค่าซ่อมเกียร์ประมาณ 10,000 บาท จากนั้นได้แจ้งยืนยันเจ้าของรถ ทางเจ้าของรถบอกว่าจะโอนเงินให้แต่กลับให้ลูกน้องวิ่งไปเอาเงิน 2-3 ครั้ง เสียเวลางานไปแล้วไม่ได้เงินกลับมา ระหว่างที่ลูกน้องเดินทางไปหาก็จะฝากซื้อก๋วยเตี๋ยวให้ พอถึงที่แทนที่เอาเงินให้ทางเจ้าของรถกลับคุยเรื่องเก่าในอดีตที่เคยรู้จักกัน ซึ่งเด็กก็เสียเวลา เสียงาน ตนเลยตำหนิเด็กว่าไม่ต้องไปสนใจลูกค้าแบบนี้ให้รีบกลับมาทำงาน ผ่านมาจนปีใหม่มาทราบเรื่องตอนหลังว่าเขาบุกมาที่บ้านลูกสาวตน มากับผู้ชายอ้างตัวเป็นตำรวจ มารื้อค้นเอกสารในตู้จดหมายหน้าบ้าน กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ ตนมองว่ามันเกินไปและไม่ปลอดภัยกับลูกสาวของตน อยากจะร้องสื่อให้ช่วยเหลือที่เขาแอบอ้างว่ามากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งไม่รู้ว่าใช่ตำรวจจริงหรือเปล่า หรือเป็นการแอบอ้าง ตนมองว่าถึงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีสิทธิ์มาค้นของในตู้จดหมายหน้าบ้านลูกสาวของตน ถ้ามีเอกสารสำคัญหายไปใครจะรับผิดชอบ ก่อนหน้านี้มีคนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรเข้ามาหาตนให้คืนรถ ตนบอกว่ายินดีคืนรถให้ แต่ยามวิกาลตนไม่สามารถคืนรถให้ได้ ถ้าให้ดีให้เตรียมเอกสารมาด้วยแล้วไปคืนรถกันที่โรงพักไหนก็ได้ จู่ๆจะมาขนรถออกจากอู่ตอน 2 ทุ่ม ตนไม่อนุญาต มองว่าทำเกินไป เลยเป็นเรื่องเป็นราวถึงวันนี้ ตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจและไม่ปลอดภัย หลังจากนี้จะเดินทางไปแจ้งความที่สภ.บางบัวทอง กลัวลูกสาวจะไม่ปลอดภัยและกลัวว่าคนที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะย้อนกลับมาอีกครั้ง

นายตยุสฐ์ชนา หรือพี่ช้าง ผู้เสียหาย กล่าวต่ออีกว่า หากทางคู่กรณีจะมาเอารถคืนตนยินดีคืนรถให้ ส่วนค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถตนมีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ ว่าไม่คิดค่าใช้จ่ายก็ได้ แต่ขอให้มารับรถที่โรงพักหรือมารับรถที่เป็นเวลาทำงานไม่ใช่จะมารับรถตอน 2 ทุ่ม ตนว่ามันไม่เหมาะสม อยากให้ทำให้ถูกต้องและเซ็นรับรถไว้เป็นหลักฐาน ตอนนี้ตนเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกสาวมากเพราะมาก่อกวนที่บ้าน ถ้าอยากติดต่อมารับรถตนไม่ขัดข้อง แต่ต้องไปรับรถที่โรงพักแล้วลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรื่องจะได้จบ
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี