ที่เรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ นายวิรัตน์ แดงเถิน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ จัดกิจกรรมมอบสิ่งของที่จำเป็นแก่ผู้ต้องขังที่ไม่มีญาติ โดยมีนายปองศักดิ์ นันทเสน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุตรดิตถ์, พลตำรวจตรีสุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์, พลตรีสุชาติ พุ่มสุวรรณ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ ๓๕ , นายรณรงค์ สิทธิเขตกรณ์ ปลัดจังหวัดพิจิตร, นายกุญช์ภัสส์ พัฒนฉัตรรุ่งรุจ เจ้าของร้านเหลียงซานและคณะ และนางสาวนันทนีย์ ติบใจ ประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกิจกรรม พร้อมกันนี้ยังได้กิจกรรมเสริมสร้างพลังบวกด้านดนตรี ให้แก่ผู้ต้องขัง มีการแสดงดนตรี สร้างความผ่อนคลายให้แก่ผู้ต้องขัง โดยวงเหลียงซาน จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้ผู้ต้องขังมีพลังชีวิต คิดบวก สร้างกำลังใจให้ผู้ต้องขังผ่านเสียงเพลง และกลับมามีโอกาสสร้างที่ยืนในสังคมได้
โครงการนี้ยังจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจให้แก่ผู้ต้องขังที่ถูกควบคุมตัวมีโอกาสกลับตัวกลับใจและสำนึกในความผิดก่อนกลับไปเป็นคนดีของสังคม
จากสถิติประเทศไทยมีปัญหาผู้ต้องขังล้นคุก และเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์พบว่า ปี 2561 มีจำนวนผู้ต้องขังรวม 355,543 คน แบ่งเป็น ชาย 308,532 คน และผู้ต้องขังหญิง 47,011 คน นับได้ว่ามีผู้ต้องขังมากเป็นอันดับ 6 ของโลก และมีผู้ต้องขังหญิงสูงเป็นลำดับ 4 ของโลก การมีผู้ต้องขังจำนวนมากเกินกว่าที่เรือนจำจะรับได้ ทำให้เกิดปัญหาทั้งความแออัด น้ำดื่มน้ำใช้ ขาดแคลนพื้นที่สำหรับการทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งล้วนผลต่อสุขภาวะทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งผลการสำรวจจาก โครงการวิจัยเพื่อพัฒนาระบบบริการสุขภาพจิตและจิตเวชสำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำ โดยสถาบันกัลยาราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิตพบว่าผู้ต้องขังร้อยละ 45.67 มีภาวะซึมเศร้า ปัญหาสุขภาพจิต หรือโรคทางจิตเวช และ ร้อยละ 33 มีการทำผิดซ้ำเมื่อพ้นโทษ.
ขอบคุณภาพ-ข่าว ณัฐวัฒน์ ราชประสิทธิ์ จ.อุตรดิตถ์