ได้รับแจ้งจากอาสาจราจรเมืองมุกดาหารว่ามีเหตุไฟไหม้รถยนต์เก๋งกลางสี่แยกไฟแดงชลประทานจากนั้นทีมข่าวจึงรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพบรถยนเก๋งยี่ห้อเบนท์ รุ่น 550 เอเอ็มจี สีเทาบรอนหมายเลขทะเบียน กฉ 6131 มุกดาหาร จอดอยู่ริมถนนห่างจากแยกชลประทานประมาณ100เมตร ยังคงมีควันสีขาวออกจากบริเวณห้องเครื่องยนต์อยู่ตลอดเวลา ในที่เกิดเหตุยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจราจร สภ.เมืองมุกดาหารและพนักงานดับเพลิงจากเทศลาลเมืองมุกดาหารกำลังช่วยกันดับไฟที่หน้ารถยนต์คันดังกล่าวใช้เวลาประมาณ30นาทีจึงสามารถระงับเหตุได้


จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะที่ตัวเองกำลังขับรถสกายแล็ปกลับบ้านนั้นได้เห็นรถยนต์คันดังกล่าวมีควันสีขาวพุ่งออกมาจากหน้ารถ ตนจึงได้หยุดรถและวิ่งข้ามถนนไปช่วยคนที่อยู่ในรถยนต์ที่กำลังขนของใช้ออกจากรถจากนั้นตนเองได้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยบริการศูนย์รถยนต์ดังแห่งหนึ่งที่กำลังแล่นผ่านมาพอดี ซึ่งพนักงานศูนย์รถยนต์ดังยี่ห้อหนึ่งได้เปิดผากระโปรงรถและได้ถอดขั้วแบตเตอร์รี่ออก จากนั้นได้มี รปภ.แขวงการทางมุกดาหาร เห็นเหตุการณ์เข้าพอดี จึงได้นำถังสารเคมีเพื่อดับเพลิงวิ่งนำถังดับเพลิงมาจำนวนสองถังเพื่อช่วยฉีดสารเคมีเข้าที่ห้องเครื่องของรถยนต์คันดังกล่าวเกือบหมดทั้งสองถัง จากนั้นรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองมุกดาหารได้วิ่งเข้ามาสมทบช่วยดับเพลิง

ด้าน พ.ต.ท.อังกูล วรสาน สว.สส.สภ.นาอุดม เจ้าของรถยนต์ที่เกิดเหตุเล่าว่า เมื่อหลายวันก่อนตนเองได้นำรถยนต์ที่เกิดเหตุเข้าไปซ่อมระบบเกียร์ที่ร้านซ่อมแห่งหนึ่งที่จังหวัดอุบลจากนั้นตนได้นำรถยนต์คันดังกล่าวกลับมาใช้งาน ซึ่งในวันที่เกิดเหตุตนเองได้ขับรถคันดังกล่าวเพื่อเข้ามาประชุมที่ตัวจังหวัดมุกดาหาร ขณะที่ตนเองขับรถยนต์มานั้นได้ยินเสียงลักษณะเหมือนมีกิ่งไม้ติดที่ใต้ท้องรถและมีกลิ่นเหม็น ตนจึงได้โทรศัพท์สอบถามไปยังเจ้าของอู่ซ่อมรถว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตนได้รับการตอบกลับมาจากช่างซ่อมว่า ไม่มีอะไรครับ มันคงจะเป็นน้ำมันที่เกิดจากความร้อนของเครื่องยนต์ทำให้มีกลิ่มเหมือนไฟไหม้ จากนั้นตนเองได้ขับรถมาถึงกลางสี่แยกไฟแดงชลประทานขณะนั้นตนเองเห็นมีควันพุ่งออกมาจากห้องเครื่องยนต์ตนจึงได้จอดแอบอยู่ข้างทางเพื่อหนีเอาตัวรอด
นิรันดร์ ไชยชุติกาญจน์ มุกดาหาร