ที่ห้องประชุมขุนลุมประพาส ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาที่ดินจังหวัดแม่ฮ่องสอน ครั้งที่ ๒/๒๕๖๕ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม เพื่อรับทราบหลักเกณฑ์การจําแนกประเภทที่ดิน ขั้นตอนกระบวนการจำแนกประเภทที่ดิน และรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานสำรวจและจำแนกประเภทที่ดิน ซึ่งที่ประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาที่ดินจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการจำแนกประเภทที่ดิน ในพื้นที่ป่าไม้ถาวร นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ที่ยังไม่ได้สำรวจ และจำแนกประเภทที่ดินอย่างละเอียด จำนวน 16 ป่า 348 แปลง เนื้อที่ประมาณ 192,966 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 7 อำเภอ (ประกอบด้วย อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน อำเภอขุนยวม อำเภอแม่ลาน้อย อำเภอแม่สะเรียง อำเภอสบเมย) พร้อมทั้งเห็นชอบแต่งตั้งคณะทำงานกลั่นกรอง การจำแนกประเภทที่ดิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ คณะกรรมการพัฒนาที่ดิน ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การจำแนกประเภทที่ดิน เพื่อให้การดำเนินการจำแนกประเภทที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ถาวร เป็นไปอย่างถูกต้องตามระเบียบและแนวทางเดียวกัน จึงได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การจำแนกประเภทที่ดิน ดังนี้ พื้นที่ซึ่งจะต้องรักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวร ๑) พื้นที่ซึ่งมีสภาพเป็นป่าไม้ ๒) พื้นที่ซึ่งคณะรัฐมนตรีกำหนดให้จัดเป็นชั้นคุณภาพ ลุ่มน้ำ ชั้น ๑ หรือชั้น ๒, หรือสำหรับชั้น ๓ ในบริเวณที่ ความลึก ของดินน้อยกว่า ๕๐ ซ.ม. ๓) พื้นที่ซึ่งใช้ในราชการกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เช่น พื้นที่สวนป่า วนอุทยาน สวนพฤกษชาติ สวน พฤกษศาสตร์ โครงการตาพระราชดำริ เป็นต้น มติคณะ กรรมการฯ ครั้งที่ ๔/๒๕๕๓ ๔) พื้นที่ซึ่งดินไม่สามารถใช้ในทางเกษตรกรรมได้ ๕) พื้นที่ซึ่งเป็นเกาะ ภูเขา หรือพื้นที่ซึ่งมีความลาดชัน เกิน ๓๕% ๖) ป่าชายทะเล, ป่าชายเลน, ป่าที่เกาะ ห้ามจำแนกออกป่าไม้ถาวร ๗) ป่าที่เป็นเกาะและไม่มีเอกสารสิทธิ์ ให้เก็บไว้เป็น ป่าไม้ถาวรทั้งหมด (มติคณะกรรมการฯ ครั้งที่ ๓/๒๕๓๗) ๔) ป่าชายเลน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ หรือพื้นที่เป็นป่าติดชายทะเล ให้รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวรไม่ควรจำแนกออก ส่วนพื้นที่ที่ราษฎรมี เอกสารสิทธิ์ให้ราษฎร ร้องขอมาเป็นรายๆ ไป ทางกรมป่าไม้จะกันออกให้ และพื้นที่ป่าไม้ถาวรซึ่งสมควรจําแนกออกเป็นที่ทำกินและใช้ประโยชน์อื่นๆ ๑) พื้นที่ซึ่งหมดสภาพป่าและดินเหมาะสมแก่การเกษตร มีการ ถือครองและทำประโยชน์แล้ว ๒) พื้นที่สาธารณประโยชน์ที่พลเมืองใช้ร่วมกัน เช่น ที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น ๓) พื้นที่ซึ่งใช้ประโยชน์ของหน่วยราชการ เช่น ที่ดินหน่วยราชการอ่างเก็บน้ำชลประทาน ๔) เขตห้ามล่าสัตว์ ถ้าราษฎรมี น.ส. ๓ ถือครองอยู่แล้ว ตาม ประมวลกฎหมายที่ดินก่อนประกาศ พระราชบัญญัติ สงวนและ คุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้จำแนกออกจากเขตห้ามล่าสัตว์ ๕) พื้นที่ซึ่งมีสภาพป่า มีเนื้อที่แห่งละไม่เกิน ๕๐๐ ไร่ ให้จำแนก ออกเป็น ป่าชุมชน เว้นแต่ กรณีที่มีพื้นที่ติดต่อกับป่าสงวนแห่งชาติ, อุทยานแห่งชาติ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรืออยู่ในเขตพื้นที่ ป่า โครงการฯ ที่ให้สัมปทานท่าไม้ ให้รักษาไว้เป็นป่าไม้ถาวร

ภาพ-ข่าว วิรัตน์ แม่ฮ่องสอน