จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาสะสม เมื่อวันที่ 24 – 28 กุมภาพันธ์ 2565 ในพื้นที่ 6 อำเภอ 43 ตำบล 184 หมู่บ้าน 1 ชุมชน 4,810 ครัวเรือน 18,380 คน เสียชีวิต 1 ราย (อพยพ 14 ครัวเรือน 65 คน) บ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน 23 หลัง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ 1 แห่ง ถนน 11 สาย ฝาย 2 แห่ง คอสะพาน 1 แห่ง พื้นที่การเกษตร 1,380 ไร่ และบ่อปลา 16 บ่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศทั่วไปในพื้นที่ของจังหวัดยะลา ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 จนถึงขณะนี้ ฝนหยุดตก ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ส่งผลทำให้ระดับน้ำสองสายหลักที่ไหลผ่านจังหวัดยะลา ทั้งแม่น้ำสายบุรี และ แม่น้ำปัตตานี มีปริมาณลดลงตามลำดับ ซึ่งหากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ ก็จะทำให้สถานการณ์น้ำที่ล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรคลี่คลายไปเรื่อยๆ

ขณะที่ในพื้นที่อำเภอรามัน ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ริมแม่น้ำสายบุรี หลังจากมีมวลน้ำเอ่อล้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตร จำนวนมาก ล่าสุดปริมาณน้ำที่ท่วมขังเริ่มลดลงตามลำดับ โดยชาวบ้านในพื้นที่บ้านสะโต หมู่ที่ 5 ตำบลอาซ่อง บอกว่า ตลอดเมื่อวานก็ไม่มีฝนตกลงมาและวันนี้ก็ไม่มีฝนตกลงมาแล้ว ฟ้าเปิด ท้องฟ้าสดใส ได้ทยอยทำความสะอาดบ้านเรือน ส่วนชาวบ้านที่ยังมีน้ำท่วมขังภายในบ้าน ก็ยังไม่ได้นำสิ่งของที่ย้ายขึ้นที่สูง หรือบนท้องถนน รอให้น้ำลดลงมากกว่านี้ค่อยเอาลงมาจัดของปกติ พร้อมทั้งฝากไปยังเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดยะลา ให้นำเสบียงสัตว์ หญ้าแห้ง เข้ามาช่วยเหลือเกษตรที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วด้วย

สำหรับในพื้นที่ อำเภอรามัน พื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด 16 ตำบล 90 หมู่บ้าน มีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,229 ครัวเรือน 9,053 คน ความเสียหายในเบื้องต้น บ้านเรือนเสียหายบางส่วน จำนวน 1,989 หลัง พื้นที่ทำการเกษตรเสียหาย จำนวน 13,604 ไร่ สัตว์เลี้ยงตาย จำนวน 305 ตัว โค/วัว จำนวน 7 ตัว สัตว์ปีก จำนวน  298 ตัว บ่อปลาเสียหาย จำนวน 58 บ่อ สิ่งสาธารณประโยชน์ จำนวน 2 แห่ง ถนน จำนวน  2 สาย

ภาพ-ช่าว อะหมัด รามันห์สิริวงศ์/ยะลา/