มูลนิธิ CCF ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพฯ นำโดย  นายสรวิศ อยุ่ศิลป์ ผู้จัดการศูนย์  นางสาวศุภาพิชญ์ สงคำ หัวหน้าโครงการพัฒนาเด็ก CCF จังหวัดเชียงราย พร้อมทีมงานเจ้าหน้าที่โครงการ นางเพลินจิตต์ ศรีบุรี รองนายกเทศมนตรีตำบลท่าสุด นางสาวรัตนา  อารีย์ ผู้อำนวยการกองการศึกษาเทศบาลตำบลท่าสุด นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต/สิ่งแวดล้อม นายบุญหลง  คำปิ๋ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านศรีวิเชียร ต.ท่าสุด อ.เมือง เชียงราย พร้อมด้วยคณะครูโรงเรียนบ้านศรีวิเชียร  ได้ร่วมกันช่วยเหลือ ครอบครัว ด.ญ.เกวลิน มาเยอะ ในการช่วยเหลือ สร้างบ้านใหม่และข้าวสารอาหารแห้ง ครอบครัวของ ด.ช.วาริช บ่อแก้ว มอบข้าวสารอาหารแห้งอาหารเสริมผ้าห่มและชุดเครื่องนอน และครอบครัวของ ด.ช.สุทธิพงศ์ เบชากู่ ได้รับ ข้าวสารอาหารแห้งอาหารเสริม  ชุดเครื่องครัว ยาสามัญประจำบ้าน

โดยในครอบครัวของ ด.ญ.เกวลิน มาเยอะ ซึ่งอาศัยอยู่กัน 4 คน ประกอบด้วย นาย อาปื่อ อาซองกู่ บิดา อายุ 37 ปี   นาง หมีเน มาเยอะมารดา  อายุ 35 ปี  ด.ช.หลั่น อาซองดู่ พี่ชาย อายุ 8 ปี  และ ด.ญ.เกวลิน มาเยอะ  อายุ 4ปี ได้ย้ายมากจากพื้นที่บ้านนางแล ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย  ตามญาติเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านศรีวิเชียร ได้ประมาณ 2 ปี แล้ว ซึ่งครอบครัวนี้เป็นที่รักใคร่ของคนในหมู่บ้าน มีอุปนิสัยชอบช่วยเหลือคนอื่น และช่วงงานของหมู่บ้านมาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากมีฐานะยากจน ประกอบกับกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว ทางเจ้าหน้าที่ได้ออกสำรวจแล้วพบว่าบ้านที่อาศัยอยู่ ซึ่งทำจากไม้ไผ่ทำเป็นผนัง และก่อขึ้นมาเป็นที่นอน เกิดการผุพังตามการใช้งาน คาดว่าในช่วงฤดูหนาวนี้จะทำให้ ครอบครัวนี้ประสบกับภัยหนาวจึงได้หาทางออกร่วมกัน โดยมูลนิธิ CCF ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพฯ จึงได้ให้การช่วยเหลือโดยการมอบวัสดุในการก่อสร้างมูลค่า 120,000 บาท เพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ และทางเทศบาลตำบลท่าสุด ก็ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือและสนับสนุนในด้านการศึกษาให้กับเด็กๆ ในครอบครัวนี้

นางเพลินจิตต์ ศรีบุรี รองนายกเทศมนตรีตำบลท่าสุด กล่าวว่า ครอบครัวนี้มีฐานะยากจนเข้ามาอยู่ที่นี่เขาก็ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง แต่ว่าทางหมู่บ้านบ้านศรีวิเชียร ได้ทำประชาคมโดยผู้ใหญ่บ้านได้ขอประชาคมให้เขาอาศัยอยู่ในที่ตรงนี้ แล้วก็มูลนิธิโครงการ ccf ได้เข้ามาช่วยเหลือโดยการสร้างบ้านให้ นอกจากนี้ก็มีอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นข้าวสารอาหารแห้งแล้วก็ทุนการศึกษาโครงการ ccf เป็นโครงการที่ดีเพราะว่าไม่ได้เลือกว่าเด็กๆในโครงการจะมีสถานะอะไรไม่ว่าจะเป็นชนเผ่ามีบัตรประชาชนหรือว่าไม่มี โดยให้การช่วยเหลือทุกอย่าง หมู่บ้านแห่งนี้มีหลายชาติพันธุ์ เวลามีกิจกรรมอะไรในหมู่บ้าน ก็ช่วยกันดีกันดี

“ส่วนของทางเทศบาลมีโรงเรียนอนุบาลท่าสุด มีศูนย์เด็กเล็กอยู่ในที่เดียวกัน อยู่ในความดูแลของเทศบาลสามารถจะอุดหนุนช่วยเหลือให้เด็กๆได้อย่างเราไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารและแม้ว่าทางรัฐบาลจะอุดหนุนให้งบมาไม่ได้แต่ทางเทศบาลและสามารถจะอุดหนุนให้เด็กๆทุกคนได้ เหมือนกันเด็กๆคนไทย” รองนายกเทศมนตรีตำบลท่าสุด กล่าว

นายบุญหลง  คำปิ๋ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านศรีวิเชียร กล่าวว่า ครอบครัวมาตั้งหลักฐานอยู่นี่ประมาณ 2-3 ปีก็อพยพมาจากบ้านนางแลตำบลนางแลก็มาอยู่นี่ เป็นครอบครัวเล็กๆ ที่ยากจน ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากทุนจาก ccf ที่มาช่วยเหลือในการปลูกสร้างบ้านให้วันนี้ ผมและทางเทศบาลได้ร่วมกันดูแลเด็กในการเลี้ยงดูเด็กให้การศึกษาของเด็กๆ ครอบครัวนี้ มีอุปนิสัยเรียบร้อยที่ไผ่ดีไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดใดๆทั้งสิ้น มีนิสัยดีช่วยเหลือชุมชนช่วยเหลือในกิจกรรมต่างๆของหมู่บ้าน 

นางสาวรัตนา  อารีย์ ผู้อำนวยการกองการศึกษาเทศบาลตำบลท่าสุด กล่าวว่า ในส่วนของกองการศึกษาเทศบาลตำบลท่าสุด เราให้โอกาสทางการศึกษากับเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ใด ซึ่งน้องมีสิทธิ์ที่จะได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียมกับเพื่อนๆ ทุกคนที่อยู่ในท้องถิ่นของเรา แล้วก็จะมีการติดตามอย่างต่อเนื่องเพราะว่าเรามีโครงการเยี่ยมบ้านอยู่ตลอด เป็นการสื่อสารสองทาง ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ว่าน้องมีสภาพเป็นยังไงอยากจะให้เราแก้ไขหรือมีปัญหาในส่วนไหน และก็วันนี้ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งแล้วก็เราจะติดตามน้องๆ ให้ส่งต่อนะคะให้ให้สามารถศึกษาในระดับที่สูงขึ้นต่อไป

นางสาวศุภาพิชญ์ สงคำ หัวหน้าโครงการพัฒนาเด็ก CCF จังหวัดเชียงราย กล่าวว่า  ในวันนี้ ในส่วนของมูลนิธิ CCF เด็กและเยาวชนของเราได้นำทุนจากสำนักงานใหญ่ของเราเพื่อที่จะช่วยในเรื่องของการสร้างบ้านให้กับน้อง โดยจะเป็นพวกของวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างทั้งหลัง ซึ่งบ้านหลังนี้เราจะรื้ออแล้วก็สร้างให้ใหม่ทั้งหมด ในส่วนของข้าวสารอาหารแห้งอาหารเสริมแล้วก็อุปกรณ์เครื่องครัวแล้วเครื่องใช้ทั้งหมด  เราจะช่วยในเรื่องของพื้นฐาน

“ในเบื้องต้นเราอยากจะสร้างบ้านให้กับน้อง เพราะว่าตอนนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ซึ่งบ้านหลังเดิมของน้อง ไม่สามารถที่จะกันฝนกันลม กันแดดอะไรได้เลย เราก็คิดว่าปัญหาเร่งด่วนของน้องคนนี้ก็คือในเรื่องของการสร้างบ้านให้กับน้องค่ะเพราะว่าน้องจะได้มีสุขภาพที่ดีขึ้น มีบ้านที่สามารถป้องกันลมหนาว ป้องกันแดด ลมฝน ต่างๆได้ก็จะส่งผลให้เรื่องของสุขภาพคนในครอบครัวให้ดีขึ้นอันนี้เป็นปัญหาเร่งด่วน และเป็นสิ่งแรกที่เราจะได้ช่วยเหลือน้องต่อไป”  หัวหน้าโครงการพัฒนาเด็ก CCF จังหวัดเชียงราย กล่าว

นาย อาปื่อ อาซองกู่ อายุ 37 ปี บิดา ของ ด.ญ.เกวลิน กล่าวว่า ขอขอบคุณมูลนิธิ ccf เทศบาลตำบลท่าสุด คณะครูผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยฯ ที่ให้การช่วยเหลือครอบครัวของผม ซึ่งครอบครัวของผมเป็นครอบครัวที่ยากจนหาเช้ากินค่ำ และได้รับความเมตตาจากมูลนิธิที่ให้การช่วยเหลือมาในครั้งนี้

ภาพ-ข่าว ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย