ที่บ้านเลขที่ 17 / 1 หมู่ที่ 5 ตำบลชะรัด อำเภอกงหรา จจังหวัดพัทลุง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง อัญเชิญตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบให้แก่นายจุอิม มูเก็ม อายุ 63 ปี บิดาของผู้เสียชีวิตและครอบครัว ส.ต.เอกชัย มูเก็ม ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
โดยมีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามซุ่มยิงฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4513 กรมทหารพรานที่ 45 ซึ่งตั้งอยู่บ้านลาแป หมู่ 2 ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2565 เวลาประมาณ 12.30 น. ซึ่งได้พลีชีพจากเหตุปะทะในครั้งนี้ เพื่อเป็นการปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่ครอบครัวของส.ต.เอกชัย มูเก็ม
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามซุ่มยิงฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4513 กรมทหารพรานที่ 45 ซึ่งตั้งอยู่บ้านลาแป หมู่ 2 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และในระหว่างที่ ส.ต.เอกชัย มูเก็บ หัวหน้าชุดได้นำกำลังพล รวม 6 นาย ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณหน้าฐาน ได้มีคนร้ายประมาณ 10 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือโดยแยกออกเป็น 2 ชุด ซึ่งชุดที่ 1 แอบแฝงตัวเดินลัดเลาะมาจากด้านหลังของฐาน และชุดที่ 2 แอบลัดเลาะเดินย่องมาจากป่าฝั่งตรงข้ามของฐาน เมื่อสบโอกาสคนร้ายทั้ง 2 ชุด ได้ใช้อาวุธปืนใส่เจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 6 นาย ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านจุดตรวจหน้าฐาน
จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกัน และเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ในฐานก็ได้เข้าจุดกำบังใช้อาวุธปืนยิงสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ด้านนอก เป็นเวลานานกว่า 30 นาที กลุ่มคนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเบิกทาง และอาศัยความชำนาญพื้นที่สามารถหลบหนีไปได้ ต่อมาเมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ พบว่า ส.ต.เอกชัย มูเก็ม ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ส่วน อส.ทพ.มงคล และ อส.ทพ.นันทวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
นอกจากนั้นที่บริเวณ มัสยิช้าหรี้อาตุล มุฮำมาดียะห์ หมู่ที่ 5 ตำบลชะรัด อำเภอกงหรา พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของ ส.ต.เอกชัย มูเก็ม และในเบื้องต้นได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้ นายจุอิม มูเก็ม อายุ 63 ปี บิดาของผู้เสียชีวิต ขณะสิทธิกำลังพลของผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่จนเสียชีวิต ที่จะได้รับหลัง ส.ต.เอกชัย มูเก็ม เสียชีวิตนั้นจะได้รับการเลื่อนชั้นยศ 7 ชั้น เป็นยศ “ร้อยโท” และจำนวนเงินอีกกว่า 2 ล้านบาท จากนั้นก็ได้นำร่างฝังทำพิธีทางศาสนาต่อไป
ภาพ-ข่าว ไสว รุยันต์ จ.พัทลุง