ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้กรุงเทพมหานคร หมู่ 2 ถ.เลียบคลองลากฆ้อน ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้เป็นประธานเปิดถนนภายในศูนย์เพาะชำกล้าไม้ เพื่อให้ประชาชนเดินทางเข้ามารับกล้าไม้ได้อย่างสะดวกขึ้น พร้อมปลูกต้นรวงผึ้ง ต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10 ร่วมกับ นางรัฐยา อาจหาญ เผยพร นายอำเภอลาดหลุมแก้ว และ นายพฤกษ์  โสโน ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่า พร้อมมอบพันธุ์กล้าไม้ให้ประชาชนที่มาลงทะเบียนไว้และขับรถยนต์เข้ามารับต้นไม้ได้ทันที (Drive Thru)

    บรรยากาศการรับพันธุ์กล้าไม้ มีประชาชนเข้ามารับพันธุ์กล้าไม้ตามที่กำหนดเวลา มีนายโพธิ์สยาม  ตัณติวานิชกุล เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ศูนย์เพาะชำกล้าไม้กรุงเทพ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้การตอนรับอย่างเป็นกันเอง เพื่อป้องกันความแออัด ซึ่งหลักฐานการขอรับกล้าไม้ 1. บัตรประชาชน 2. ถ้าเป็นโครงการต้องแนบรายละเอียดโครงการ เอกสารที่ดินและแผนที่สังเขป ซึ่งพันธุ์กล้าไม้ที่ทางศูนย์เพาะชำกล้าไม้กรุงเทพมหานครแจกให้ประชาชนมีจำนวน 15 ชนิด ได้แก่ 1.พยูง 2.มะฮอกกานี 3.สะเดา 4.มะค่าโมง 5.ชมพูพันธุ์ทิพย์ 6.ขนุนมาเลเชีย 7.มะกอกน้ำ 8.มะขามกระดาน 9.ทรงบาดาล 10.ทองอุไร 11.หูกระจง 12.ยอบ้าน 13.ประดู่กิ่งอ่อน 14.พิกุล และ 15ปีป รวมหลายชนิดรับได้คนละไม่เกิน 200 ต้น เพื่อกระจายพันธุ์กล้าไม้ให้ประชาชนอย่างทั่วถึง

 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง จากการหารือระหว่างท่านวราวุธ ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยากจะสร้างพื้นที่สีเขียวให้มากที่สุด เนื่องจากเรามีกล้าพันธุ์ไม้เยอะ พร้อมที่จะให้พี่น้องประชาชนมารับไป แต่เนื่องจากขาดการประชาสัมพันธ์ รวมถึงได้รับการประสานจาก นายศุภกิจ จันทร์กลั่น หัวหน้าศูนย์เพาะชำกล้าไม้กรุงเทพฯ ทราบว่าถนนภายในศูนย์ยังไม่ดี ประกอบกับเข้าหน้าฝน ผมจึงได้ประสานทาง นายชูชาติ คำโถ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหน้าไม้ และ นายสมร แตงอ่อน สมาชิกสภา อบจ.เขต 1 อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เบื้องต้นได้เอาหินคลุกมาลงและบดอัดให้ดีเพื่อให้พี่น้องประชาชนเข้ามารับต้นไม้ได้สะดวกขึ้น บริเวณหน้าหน้าจะต้องมีป้ายเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้เข้ามารับพันธุ์ไม้ที่เป็นประโยชน์ตามนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายศุภกิจ จันทร์กลั่น หัวหน้าศูนย์เพาะชำกล้าไม้กรุงเทพฯ กล่าวว่า ขอบคุณท่านพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานีและทีมงานของท่านที่ได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นถนนภายในศูนย์เพาะชำกล้าไม้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาขอรับกล้าไม้ ซึ่งศูนย์เพาะชำกล้าไม้นี้เป็นศูนย์ที่กระจายกล้าไม้ไปทั่วประเทศ  ซึ่งทางกรมป่าไม้ได้เปิดให้ประชาทั่วไปการจองคิวการรับพันธุ์กล้าไม้ออนไลน์อยู่แล้ว ประชาชนสามารถเข้าไปจองคิวออนไลน์ก็ได้ ประชาชนที่อยู่ใกล้ศูนย์เพาะชำกล้าไม้แห่งไหนก็ไปรับที่นั่น  ในส่วนของการรับพันธุ์กล้าไม้ที่ศูนย์เพา

ะชำกล้าไม้กรุงเทพฯ ประชาชนสามารถโทรศัพท์เข้ามารับคิวกำหนดวันรับกล้าไม้ไว้ก่อน ในปีที่แล้วทางศูนย์เพาะชำกล้าไม้กรุงเทพฯ มีประชาชนจองคิวเข้ามารับพันธุ์กล้าไม้ 1,000 กว่าคน แต่ปีนี้มีสถานการณ์โควิด-19 จึงมีประชาชนมาลงทะเบียนไว้แล้วประมาณ 200 คน ท่านที่ต้องการพันธุ์กล้าไม้สามารถมาลงทะเบียนจองคิวไว้ได้โดยเดินทางมาที่ ศูนย์เพาะชำกล้าไม้กรุงเทพมหานคร ตำบลหน้าไม้ อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี หรือสอบถามเบอร์ 02-977-6858 , 094-556-1623 ตามวันเนายพฤกษ์ โสโน ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการปลูกป่า กล่าวว่า โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจสืบเนื่องมาจากยุทธศาสตร์ 20 ปีของชาติเมื่อรัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์ 20 ปีขึ้นมากรมป่าไม้โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายโดยส่งมอบนโยบายนั้นมาเป็นภารกิจของศูนย์เพาะชำกล้าไม้ที่จะต้องผลิตกล้าไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศซึ่งภายใน 20 ปีนี้รัฐบาลมีหน้าที่ในการสร้างป่าสร้างความร่มรื่นสร้างพื้นที่สีเขียวให้ได้ไม่น้อยกว่า 55% ของพื้นที่ของประเทศใน 55% จะแบ่งเป็นป่าธรรมชาติประมาณ 35% และเป็นป่าเศรษฐกิจประมาณ 15% อีก 5% เป็นการสร้างพื้นที่สีเขียวในเมืองรวมแล้วก็ประมาณ 55%

มีนโยบายอย่างนี้กรมป่าไม้ก็มีหน้าที่ผลิตกล้าไม้เพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าวเพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่รัฐบาลได้ตั้งเอาไว้ในระหว่างนี้กรมป่าไม้เองก็ได้ทำโครงการปลูกต้นไม้ร้อยล้านกล้าเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลโครงการร้อยล้านกล้าที่มีชื่ออย่างเป็นทางการรวมใจไทยปลูกต้นไม้เพื่อแผ่นดินสืบสานสูงร้อยล้านต้นซึ่งคนที่เอากล้าไม้ไปปลูกถ้าไม่ลงทะเบียนกับกรมป่าไม้ตัวเลขก็จะไม่เพิ่มขึ้นดังนั้นการที่จะรับกล้าไม้จากกรมป่าไม้ไปปลูกเพื่อให้โครงการดังกล่าวใครจับตัวเข้าสู่เป้าหมาย 100 ล้านต้นก็คือทุกคนที่รับกล้าไม้ไปปลูกแล้วก็ต้องนำมาลงทะเบียนซึ่งปัจจุบันนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการลงทะเบียนไปแล้วประมาณ 94 ล้านต้นก็คงจะเหลือเวลาอีกหลายเดือนจะนำไปสู่ 100 ล้านต้นเชื่อว่าโครงการดังกล่าวน่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2565 นี้การปลูกต้นไม้สร้างอะไรให้กลายเป็นเด็กๆสิ่งแรกคือการสร้างอนาคตที่ดีต้นไม้ที่ปลูกในวันนี้เชื่อว่ารุ่นตนเองและรุ่นอาจารย์จะใช้ประโยชน์ได้ทางอ้อมแต่ประโยชน์ทางตรงเมื่อถึงวันนั้นผลประโยชน์ที่ได้รับก็คือเนื้อไม้คนที่จะได้รับโดยตรงก็คือเด็กๆในวันนี้ก็อยากจะบอกว่าการปลูกต้นไม้ในปัจจุบันและอดีตต่างกันมากเช่นในอดีตนั้นการปลูกต้นไม้แล้วส่วนใหญ่ต้นไม้จะเป็นทรัพย์สินของส่วนรวมแต่ปัจจุบันกรมป่าไม้โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้แก้ไขกฎหมายต้นไม้ที่นำไปปลูกที่ดินในที่ดินกรรมสิทธิ์ของท่านเป็นทรัพย์สินของท่านนับตั้งแต่วันปลูกเพราะฉะนั้นต้นไม้ที่เราปลูกลงไปก็คือทรัพย์สินของท่านในอนาคตสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินตราได้เราจะโค่นต้นไม้ที่อยู่ในพื้นที่ของเราก็เป็นทรัพย์สินของเราสามารถเปลี่ยนเป็นเงินตราได้เพราะฉะนั้นการปลูกต้นไม้ในวันนี้และการปลูกต้นไม้ในอดีตตามกันเรื่องการใช้ประโยชน์ต้นไม้ที่ท่านปลูกในวันนี้ท่านตัดไม่ต้องขออนุญาตนำทรัพย์สินที่อยู่ในที่ดินของท่านมาใช้ประโยชน์ได้เลย.

ภาพ-ข่าว ธีทัต อุ้มญาต จ.ปทุมธานี