ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สอบถาม พระคำนึง  นิมมะโล พระลูกวัดผู้อุปถัมป์เลี้ยงดูน้องต้าส่งเสียให้ค่าเล่าเรียนหนังสือ และเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของอาวุธปืนไทยประดิษฐ์

พระคำนึง กล่าวว่า ทางด้านแม่ของน้องต้าได้พาน้องต้ามาฝากไว้กับตนตั้งแต่น้องต้าอายุ 8-9 ขวบ เหตุผลที่เอามาฝากเลี้ยงดูเพราะว่ามีฐานะยากจนไม่มีตังค์ส่งเสียให้เรียนหนังสือ ตนรับมาเลี้ยงก็ได้ส่งเสียค่าเรียนหนังสือ ช่วงหลังๆที่ผ่านมาน้องตาไม่ได้เข้ามานอนที่วัดเป็นประจำ มีไปนอนบ้านเพื่อนบ้าง ตอนนี้ก็น่าจะเช่าบ้านอยู่กับแฟนของเขา ปกติแล้วน้องต้าเป็นคนว่านอนสอนง่ายไม่ได้เกเรอะไร แต่เรื่องเรียนตนไม่ทราบว่าน้องต้าขาดเรียนบ่อยเพราะน้องต้าก็แต่งตัวไปเรียนทุกวัน ตอนนี้ก็เสียใจทั้งสองฝ่ายที่สูญเสียลูกไป ส่วนต้าก็เสียใจที่เขาเลือกทางเดินที่ผิด ก็อยากให้คิดใหม่ถ้าออกมาก็ปรับตัวทำตัวให้ดีขึ้นให้เป็นคนดีและเป็นแบบอย่างของสังคม โดยปกติครอบครัวน้องต้าก็มีแม่ส่วนพ่อเสียชีวิต ตอนนี้ก็มีพ่อเลี้ยงและน้องสาวที่เป็นลูกของพ่อเลี้ยง 1 คนชื่อน้องตูนอายุ 7 ขวบเป็นผู้หญิง 

พระคำนึง กล่าวต่อว่า ส่วนทางด้านของคดีความที่มีข่าวออกไปว่าเป็นปืนของตนไม่เป็นความจริงที่ข่าวมันออกไปแบบนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าน้องต้าอาจจะรู้สึกกลัวหรือตกใจอยู่นึกอะไรไม่ออกก็นึกถึงตนจึงพูดแบบนั้นออกไป ตนก็ให้อภัยไม่ได้คิดแค้นอะไรกับน้องต้า พอทางตำรวจสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงปรากฎว่าเป็นปืนของเพื่อนน้องต้า ช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมาตนเครียดมากจนนอนไม่หลับยันตี 2 ครึ่ง รวมถึงญาติของตนก็รู้สึกเครียด แม้กระทั่งญาติโยมที่รู้จะก็โทรมาหาพลอยเครียดไปด้วย ปกติตนก็ไม่เคยมีประวัติเรื่องปืนและไม่ชอบพวกอาวุธปืนพวกนี้อยู่แล้ว หลังจากนี้เห็นทางแม้ของน้องต้าก็มาพูดคุยกับตนว่าหลังศาลตัดสินหรือปล่อยตัวออกมาก็จะพาน้องต้าไปอยู่กับลุงที่จังหวัดราชบุรี

ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต จ.นนทบุรี