พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ลงพื้นที่บ้านเลขที่ 102/94 หมู่บ้านรุ่งเรืองนิเวศน์ ซอย 4 ม.8 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อจับกุมนายหาญรบ หรือพัด ทองเดือน อายุ 34 ปี ชาวจ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยของกลาง 5 รายการ คือ 1.ชุดคอมแอร์เครื่องปรับอากาศ มูลค่าประมาณ 18,000 บาท 2.หมวกนิรภัยสีดำ ยี่ห้อ INDEX จำนวน 1 ใบ 3.รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีเทา-ดำ แบบพ่วงข้าง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน 4.เสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีดำ จำนวน 1 ตัว (สวมใส่ก่อเหตุ/ขณะถูกจับกุม) 5.กางเกงยีนส์ ขายาว จำนวน 1 ตัว และพบว่าผลการตรวจปัสสาวะ นั้นมีสารเสพติดในร่างกาย
โดยเป็นการจับกุมคนร้ายได้ภายใน 3 ชั่วโมง หลังจากที่ผู้เสียหายเดินทางเข้าไปแจ้งความว่าถูกขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์ ที่ร้านสักแห่งหนึ่ง ภายในซอยวัดกู้ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมฯหรือรับของโจร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย“
ภาพจากกล้องวงจรปิดวินาทีคนร้ายก่อเหตุขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์ และของมีค่าอื่นๆ ภายในร้านสักแห่งหนึ่ง ภายในซอยวัดกู้ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยวงจรปิดช่วงเวลาเกิดเหตุ เวลา 04.15 น. จะสังเกตว่าคนร้ายได้นำผ้าใบมาขึงปิดไว้ เพื่อไม่ให้คนที่ผ่านไปผ่านมาเห็นขณะที่ตนเองกำลังงัดแงะคอมเพรสเซอร์แอร์ ท่อรถจยย. หมวกกันน็อก หลังจากนั้นก็ขับขี่รถซาเล้งออกจากที่เกิดเหตุ มุ่งหน้าออกไปทางถนน รัตนาธิเบศร์ และกลับไปที่บ้านพัก
นายนราธิป เอี่ยมจันทร์ อายุ 26 ปี เจ้าของร้านสัก เล่าเหตุการณ์ว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเปิดร้านก็เอะใจว่าหน้าร้านมีการขึงผ้าใบ พอเปิดประตูเข้าร้านไปถึงกับตกใจ เพราะเปิดแอร์ไม่ติด พอมาดูคอมเพรสเซอร์แอร์ปรากฏว่าหายไปทั้งเครื่อง หนำซ้ำหมวกกันน็อก ท่อไอเสียรถจยย. ก็หายไปด้วย จึงไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นว่าช่วงเวลาประมาณตี 4 มีคนร้ายขับขี่รถซาเล้งพ่วงข้างมาขโมยของ โดยมูลค่าความเสียหายแล้ว ประมาณ 30,000 บาท จึงรีบเดินทาง มาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะว่า ร้านสักของตนจำเป็นที่ต้องใช้แอร์มากๆ เพราะเวลาสักมันจะเจ็บ ความเย็นจากอุณหภูมิห้องที่เปิดแอร์ จะช่วยให้ความเจ็บลดลง จึงทำให้ตนรู้สึกว่าเสียทั้งข้าวของ เสียลูกค้า และเสียเวลาด้วย
นายหาญรบ หรือพัด ทองเดือน อายุ 34 ปี รับสารภาพหมดเปลือกว่าได้ก่อเหตุขโมย ทรัพย์สินและของมีค่าทั้งหมดนี้จริง เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เงิน เพื่อนำไปซื้อเหล้าดื่ม จึงได้ก่อเหตุนี้ขึ้น สุดท้ายแล้ว อยากจะขอโทษทางผู้เสียหาย และขอโทษครอบครัวของตัวเอง ส่วนของที่นำไปขายนั้นขายได้ 1,100 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ก็ใช้จ่ายไปหมดแล้ว
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี