หลังจากช่วงเช้ามืดของวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ได้เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก ทั้งในพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดเชียงใหม่ จนเกิดน้ำป่าไหลหลากกินพื้นที่เป็นวงกว้างและที่กระทบกับชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนหนักสุดก็คือ เกิดเหตุดินไหลพัดพาเอาทั้งดิน หิน ต้นไม้รวมถึงเสาส่งไฟฟ้าในระบบ 115KV ที่เป็นระบบไฟฟ้าหลักที่ส่งจากสถานีไฟฟ้าย่อยแม่แตง ส่งไปป้อนให้กับแม่ฮ่องสอน พังราบลงมากว่า 8 ต้น ปิดถนนหลวงสาย 1095 สายปาย-แม่มาลัย บริเวณบ้านแม่เลา ส่งผลกระทบอย่างหนักจากเส้นทางถูดปิดอย่างสิ้นเชิง ระบบไฟฟ้าในพื้นที่อำเภอปาย ปางมะผ้าและอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ใช้การไม่ได้ ซึ่งก็ส่งผลไปถึงระบบประปา ระบบสื่อสารล่มไปตามๆ กัน
หลังเกิดเหตุทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่ 1 เชียงใหม่ ต้องระดมทั้งกำลังคนและเครื่องจักร เข้าทำการแก้ไขปัญหา ที่ต้องทำงานกันทั้งกลางวันและกลางคืน แข่งกับการแก้ไขของการไฟฟ้าแม่ฮ่องสอน ที่ต้องดึงระบบไฟฟ้าจากสถานีย่อยจอมทอง ผ่านอำเภอแม่แจ่มและเข้ามาทางอำเภอขุนยวม หรือจากอำเภอแม่สะเรียง เพื่อพยายามเลี้ยงระบบในเขตตัวเมืองและในสถานที่สำคัญๆ พร้อมกับรับระบบไฟฟ้าโครงข่ายสำรองจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตในพื้นที่ ที่มีทั้งระบบไฟฟ้าพลังดีเซล พลังน้ำจากเขื่อนและไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทำการขนานเข้าสู่ระบบด้วยอีกทางหนึ่ง แต่ปัญหาก็ยังไม่จบเพราะหมู่บ้านรอบนอก รวมถึงพื้นที่อำเภอปางมะผ้าและอำเภอปาย ก็ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ติดต่อกับเกือบ 2 วัน ผลกระทบครั้งนี้ถือว่าเป็นปัญหาและความเสียหายหนักสุดของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
จนกระทั่งเมื่อเวลา 16.20 น.ของวันนี้ (วันที่ 8 ตุลาคม 2567) ชาวแม่ฮ่องสอนก็ได้รับข่าวดีจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแม่ฮ่องสอน ว่าระบบเสาส่งในระบบ 115KV ดำเนินการซ่อมแล้วเสร็จและสามารถจ่ายไฟให้กับทุกพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว สร้างความยินดีให้กับผู้ใช้ไฟและผู้ประกอบการต่างๆ เนื่องกับทันการกับเวลาของการจัดงานเทศกาลปอยเหลินสิบเอ็ดหรือเทศกาลออกพรรษาของชาวไทใหญ่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนพอดี ซึ่งจะมีทั้งการจัดตลาดจำหน่ายสินค้าย้อนยุค กิจกรรมต่างๆ พร้อมกับการประดับประดาไฟสวยงามทั้งเมือง ตั้งแต่วันที่ 7 ไปจนถึงวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ส่วนวันเปิดงานอย่างเป็นทางการนั้นจะทำพิธีเปิดในวันที่ 14 ตุลาคม 2567 ด้วย
ภาพ-ข่าว วิรัตน์ แม่ฮ่องสอน