จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “วัดชมภูเวก เป็นวัดท่องเที่ยวในจังหวัดนนทบุรี ดังนั้นโยมเอาหมามาปล่อย ไม่สมควรอย่างยิ่ง โยมควรมารับกลับคืนเพราะถ่ายรูปไว้หมดแล้ว“ โดยเหตุการณ์นี้พระรูปหนึ่งได้ถ่ายรูปรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ปร 4362 กทม. ขับเข้ามาจอดรถภายในวัด มีครอบครัวหนึ่ง นำสุนัขพันธุ์ไทย สีดำ-น้ำตาล มีปลอกคอ มาปล่อยที่วัดชมภูเวก ก่อนขับรถออกไป
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณวัดชมภูเวก ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับพระอาจารย์ชาญณรงค์ โฆสโก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดชมภูเวก กล่าวว่า การที่ญาติโยมนำสุนัขและแมวมาปล่อยที่วัด จะด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ การที่ญาติโยมเอาสัตว์พวกนี้มาปล่อยในวัดจะทำให้เกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปหรือความดุร้ายของสุนัขทุกตัว บางตัวไม่สามารถจับได้ เมื่อญาติโยมหมดประโยชน์จากการเลี้ยงสุนัขและนำมาปล่อยทิ้งไว้เป็นภาระที่วัด ซึ่งแต่ละวัดมีปัญหาใหญ่แบบนี้เกือบทุกวัด อาตมาอยากขอความกรุณาและขอร้องไม่ให้ญาติโยมนำสุนัข แมว มาปล่อยในวัด ทางวัดไม่สามารถเลี้ยงดูได้ทั้งหมด ขับรถมาทิ้งไว้ก็มี
ตอนนี้ทางวัดก็มีหลายตัวแล้ว อย่างตัวล่าสุดก็อายุมาก จะมาเลี้ยงให้เชื่องก็เป็นเรื่องยาก สุนัขตัวนี้หลังจากที่เจ้าของนำมาปล่อยก็ได้วิ่งตามรถเจ้าของ ทางเจ้าอาวาสได้บอกกล่าวไม่ให้ทำแบบนี้ แต่เจ้าของสุนัขที่นำมาปล่อยกลับต่อว่าพระไม่มีเมตตา ซึ่งวัดเป็นสถานที่ที่มีญาติโยมมาทำบุญ อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ หากสุนัขมีความดุร้าย และอาจจะโดนสุนัข หรือแมวเจ้าถิ่นกัดจนตาย ซึ่งทางวัดก็ช่วยไม่ได้ทุกตัว
พระอาจารย์ชาญณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า ทางวัดมีทั้งสุนัข และแมวที่ญาติโยมนำมาปล่อยหลายตัว ซึ่งก็จะมาปล่อยตามงานบุญ หลายตัวแตกตื่นเพราะไม่คุ้นชิน บางตัวก็เฝ้ารอ นั่งรอ ยืนรอเจ้าของมารับ ญาติโยมเลี้ยงด้วยความรักแต่กลับนำมาปล่อยทิ้งที่วัด เขาก็มีชีวิตจิตใจ เราไปทำแบบนี้ผลกรรมในทางพุทธศาสนามันจะไปย้อนสนองกับญาติโยม ลูกหลานทิ้งในบั้นปลายชีวิต ถ้าเราศรัทธาในพระพุทธเจ้าจงเชื่อว่าทุกคนมีกรรม ถ้าโยมเลี้ยงไม่ไหว แนะนำให้นำไปให้มูลนิธิต่างๆช่วยกันหาบ้านใหม่ ที่เขาพร้อมนำสุนัขไปเลี้ยง อย่านำมาปล่อย ไม่ใช่เพียงภาระแต่มันทำให้เกิดปัญหาทางสังคม เราต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี