จากกรณีเพจเฟชบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น Part 6. ได้โพสต์คลิปวีดีโอหนึ่งระบุข้อความว่า “พม่าขับรถกวนทรีน ปาดไปปาดมา ตอนขับปาดไปปาดมาอย่างห้าวอ่ะ ” ซึ่งคลิปวีดีโอดังกล่าว มาจากผู้ใช้ tiktok ชื่อว่า@tipapan_dew ในคลิปวีดีโอนี้บันทึกภาพรถเก๋งสีบรอนซ์น้ำตาล ยี่ห้อ Toyotaขับอยู่ด้านหน้ารถยนต์ของผู้ใช้Tiktok. ที่ขับตาม และเหมือนพยายามขับจี้ตูดเก๋งดังกล่าว
กระทั้งรถเก๋งชิดซ้าย เจ้าของคลิปได้ลดกระจกลง แล้วบอกให้รถเก๋งคันดังกล่าวจอด แต่รถเก๋งไม่ได้จอดขับต่อไปเรื่อยๆ จนผู้ที่ถ่ายคลิป ได้ใช้เท้ายื่นไปนอกกระจกแล้วโบกแทนมือ ให้เก๋งคู่กรณีจอด ยิ่งทำให้เก่งคู่กรณีเร่งเครื่อง แล้วขับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจร แล้วเลี้ยวขวาบริเวณสี่แยกไปอย่างเร็ว ซึ่งเจ้าของคลิปก็ไม่ยอมขับรถยนต์ตามประกบซึ่งก็ขับจี้ตูดกันไปมาและปาดไปปาดมา จนกระทั่งทั้งคู่หยุดจอดแล้วลงมาพูดคุยกันกลางถนน โดยชายเสื้อขาวสวมหมวกแก๊ป เป็นคนที่ขับรถเก๋งคันสีบรอนซ์ ส่วนชายเสื้อดำมีรอยสักคือคนที่ขับรถตามมาโดยมีภรรยาเป็นผู้ถ่ายคลิปวีดีโอ ในคลิปชายเสื้อขาวพยายามจะอธิบาย โอบชายเสื้อดำ และขอโทษ แต่ภรรยา บอกว่าไม่ต้องมาจับ และชายเสื้อดำก็ได้ตกหน้า คนขับรถเก๋งสีบรอนซ์ 1 ที โดยบอกว่าไม่ต้องมาจับ. และบอกว่าผมไม่รู้แต่ทางฝั่งคนที่ถ่ายคลิปก็บอกว่าจะไม่รู้ได้อย่างไรถ่ายคลิปมาตั้งนานแล้ว ทางฝั่งชายเสื้อดำก็ถามว่าขับปาดแบบนี้จะเอาอะไร คนขับรถเก๋งสีบรอนซ์ก็บอกว่าผมรีบ ผมคุยโทรศัพท์กับพี่สาว และก็ยอมรับว่าผมผิดผมขอโทษ และได้นำโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาถ่ายคลิปวีดีโอบ้าง จากนั้นก็ถูกชายเสื้อดำ ชกใบหน้าไป 1 ที. โดยฝั่งชายเสื้อดำ และภรรยาเจ้าของคลิป ก็ได้บอกให้ผู้ใช้รถใช้ถนนที่ขับผ่านไปมา โทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาให้หน่อย และทั้งสองฝั่งก็ยังคงเถียงกันไปมา
ล่าสุดทีมข่าวไปสอบถามเรื่องนี้กับ เจ้าของคลิปวีดีโอดังกล่าว คือชายสวมเสื้อสีดำ ชื่อว่านายเล้ง เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ขณะที่ตนขับรถยนต์ โดยมีภรรยานั่งมาในรถยนต์ด้วย และกำลังออกจาก พื้นที่อำเภอไทรโยค เพื่อเดินทางเข้าเมือง ระหว่างทางลงจากไทรโยกเป็นทางเบี่ยงเลนเดียว ซึ่งเป็นเลนสวน แต่ทางคู่กรณีได้ขับรถค่อมเลน ตนจึงตบขวาแล้วขับมาตามทางปกติ แต่คู่กรณีก็ขับไล่มาทางฝั่งซ้ายรูดลงมาไหล่ทาง ถ้ารถสะกิดกันนิดเดียว คิดว่าต้องเกิดอุบัติเหตุแน่นอน ไม่ใช่แค่นั้นรถเก๋งคันดังกล่าว ยังขับแซงขึ้นไปด้านหน้า แล้วพยายามเบรคให้ตนขับชนท้ายด้วย ตนจึงพยายามขับแซงเพื่อจะเปิดกระจกถามว่าทำไมขับรถอันตรายขนาดนี้ แต่แซงไม่ได้เป็นชั่วโมง จากตอนแรกที่ภรรยาบอกให้ใจเย็น แต่ไปๆมาๆ เก๋งคันดังกล่าวไม่ยอมจบขับปาดไปมา จนภรรยาโมโหแทน. จากที่ใช้มือโบกให้จอด กลายเป็นใช้เท้าแทน ที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ จนกระทั่งพอมาถึงทางแยกน้ำตื้นเป็นแยกไฟแดง ที่พยายามจอดรถเทียบ แต่คู่กรณีก็ฝ่าไฟแดงทำให้รถคันอื่นเบรคตัวโก่ง ตอนนั้นยิ่งโมโหตนรีบขับตามแต่ไม่ทันจังหวะรถสิบล้อมาพอดีตนให้รถสิบล้อช่วยหยุดรถขวาง คู่กรณีนึกว่าตนยอมแล้ว คิดว่าไม่ขับตามมา
หลังจากคู่กรณีจอดรถตนไปเคาะรถคู่กรณี เขาหันหน้าหนีไม่ยอมเปิดกระจก ตนเลยบอกว่าให้ลงมาจากรถ ถามว่ามึงจำกูได้ไหม คู่กรณีขับรถหนีจังหวะรถดับคู่กรณีลงมา ตนพยายามใจเย็น คุยด้วยดีๆ คุยไปคุยมาก็ทราบว่าคู่กรณีไม่ใช่คนไทยเป็นชาวเมียนมาร์ และปรากฏว่ายังไม่สำนึก ได้ไปบอกผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆว่าตนขับรถยนต์ไปเฉี่ยวรถยนต์เขา แถมชายคนดังกล่าวพยายามเดินเข้ามาใกล้ๆ โอบกอดตนพยายามพูดคุยเจรจาดีๆ ตนและภรรยาจึงบอกให้ถอยออกไปอย่ามาแตะต้องตัว เพราะ กลัวว่าชายคนดังกล่าวจะมีอาวุธ เพราะดูแล้วเป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมจัด ด้วยบรรณานโทสะตนจึงตบเข้าไปที่กกหู 1 ที คู่กรณีก็ยังคงพูดจาบ่ายเบี่ยงหยิบโทรศัพท์มาจะถ่ายตน จึงชกเข้าไปที่ใบหน้า อีกครั้ง เท่าที่เห็นคู่กรณีโทรหาใครไม่รู้ เขายอมรับว่าเขาเป็นพม่า บัตรหมดอายุ ตนบอกให้ไปคุยที่สถานีตำรวจ รอสักพักจนเจ้าหน้าที่ตำรวจมา และได้นำตัวคู่กรณีไปที่สถานีตำรวจ และยังไปบอกตำรวจอีกว่า ตนขับรถชน และไปต่อยหน้าคู่กรณีด้วย
และหลังเกิดเหตุตนนำเรื่องนี้โพสต์ลงโซเชียลเพื่อเป็นการระบาย หลังจากลงโซเชียลคู่กรณีโทรมา ข่มขู่จะแจ้งความจับตนที่ไปลงในโซเชียลแล้ววางสาย พอโทรกลับไปบล็อกเบอร์ ตอนนี้มีคนเข้ามาดูคลิป 7 ล้านกว่า ทำให้ติ๊กต๊อกที่ตนเก็บไว้ทำมาหากิน ปลิวหายไป มีผู้หญิงเข้ามา comment บอกว่าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาหลายคนแล้วส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง ขับรถปาดไปมาให้รถจิ้มตูดแล้วเรียกเงิน 2,000-3,000 บาท ตอนนี้ตนรู้สึกแย่และเสียดายติ๊กต๊อกที่ตนเก็บไว้ทำมาหากิน มีคนติดตาม 7-8 แสนคน และไม่อยากให้คนไทยมาโดนแบบนี้ และที่พูดวันนี้ไม่ได้เหมารวมว่าร้ายชาวเมียนมา คนอื่นๆมีเพียงชายคนที่ตนถ่ายคลิปวีดีโอเท่านั้น ที่ตนคิดว่า แย่มาก ตอนแรกขับรถปาดไปปาดมาและหยุดจอดเพื่อให้ตนชน แต่พอตนตามได้ทัน กับเปลี่ยนเป็นคนละคน และบอกกับคนอื่นว่าตนขับรถชน แล้วลงมาต่อยตี ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี