ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสังเวียน ฟักหอม อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.บางรักพัฒนา ว่าภายในชุมชนซอยโรงเรียนสากลศึกษาบางบัวทอง หน้าหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 69 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบังทอง จ.นนทบุรี ได้รับความเดือดร้อนจากนายสมเกียรติ ชอบแต่งกายคล้ายตำรวจสวมเสื้อกั๊กสีดำ ข้างหลังเขียนว่าสืบสวน ได้พกอาวุธปืน และมีด ตะโกนโวยวายด่าทอชาวบ้าน มีการถือปืนเข้าร้านสะดวกซื้อ บางครั้งใช้มีดฟันต้นไม้ถายในซอยโวยวายด่าทอไปเรื่อย หลายหมู่บ้านบริเวณใกล้เคียง และมีการขับรถยนต์ประมาทหวาดเสียวบีบแตรตลอดทางหากใครขับขวางทาง ทำให้ชาวบ้านระแวกนี้หวาดกลัว ใช้ชีวิตลำบาก เหมือนชีวิตแขวนบนเส้นด้าย โดยได้รับความเดือดร้อนมานานกว่า 2 อาทิตย์
นายสังเวียน กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้ทั้งถือมีดไล่ฟันคนอื่น ฟันต้นไม้ ท้าทายใครแน่จริงออกมา อีกวันหนึ่งก็ถือปืนเดินไปทั่วหมู่บ้าน เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ชาวบ้านก็หวาดระแวงกันหมด โดยผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่คนในพื้นที่ มาเช่าบ้านอยู่ แล้วก็ถูกผู้เช่าให้ออก จากการสอบถาม ชาวบ้านที่รู้จัก บอกว่า มีครอบครัว แต่ผู้ใหญ่บ้านต่อไปก็ไม่มีใครสนใจ นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุ ยังชอบใช้ก้อนหินปาใส่สุนัข ทำให้สุนัข แตกตื่น เห่าเสียงเกรียวกราว บางตัวได้รับบาดเจ็บ อีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้ตนได้รับการร้องเรียนจากลูกบ้านมาก็ได้นิ่งนอนใจได้เข้าไปพูดคุยกับนายสมเกียรติแล้วแต่ก็ไม่ยอมฟัง ซึ่งวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายสมเกียรติได้ตอนนี้ทางตนชาวบ้านก็ต้องขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมชาวบ้าน
นายสุรชัย พรมทอง อายุ 45 ปี รปภ.หมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 69 เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 27 ส.ค.67 เวลาประมาณ 11.40 น. ที่ผ่านมา ตนได้ปฎิบัติหน้าที่อยู่ที่หน้าป้อมตามปกติ ปรากฏว่านายสมเกียรติได้ขับขี่รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 5ฬ9097 กทม. ได้ขับเข้ามาจอดบริเวณหน้าป้อมยามทางเข้าหมู่บ้าน โดยมีการโวยวายลงจากรถมาแล้วถืออาวุธปืน ขึ้นมาข่มขู่ป้าทองใบ ซึ่งเป็นแม่คาขายไก่ย่างตรงข้ามหมู่บ้าน และได้เดินมาที่ป้อม รปภ.โดยถือปืนมาหาตนพร้อมพูดโวยวายข่มขู่ว่า “ใครแจ้งจับกู” ตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ผ่านไปสักพักชายคนดังกล่าวก็ได้เดินไปแถวร้านค้าผู้ใหญ่บ้าน ตนก็รู้สึกกลัวเพราะไม่รู้ว่าอาวุธเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม
นายบุญโฮม ไกรยสินธ์ อายุ 45 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน เปิดเผยว่า เมื่อวานที่ผ่านมาตนได้เดินออกมาเดินเล่นแถวหน้าหมู่บ้าน จากนั้นก็ได้ยินเสียงดหมือนคนทะเลาะกันจึงวิ่งมาดูก็พบว่านายสมเกียรติเดินถือปืนโวยวายแกว่งไปมา ซึ่งตนอยู่กับรปภ.ที่หน้าป้อม พยายามบอกว่าอย่าให้เข้ามา หลังจากเห็นปืนตนก็รีบเผ่นวิ่งเข้าบ้านเพราะกลัวปืนจะลั่น ซึ่งคนแถวนี้เอือมระอากับพฤติกรรมระแวงคนนี้หมด ไม่กล้ายุ่งกลัวถูกทำร้าย
ส่วนทางด้านนายบุญเรือน หว่างวิเชียร อายุ 54 ปี ชาวบ้านพื้นที่ เปิดเผยว่า นายสมเกียรติคนนี้พักอาศัยอยู่ห้องเช่าแถวนี้มาประมาณ 1 ปี แต่พฤติกรรมที่พกมีดและพกอาวุธปืนเพิ่งมาเริ่มขึ้นเมื่อช่วงกลางเดือนนี้ ก่อนหน้านี้ก็พูดคุยปกติคุยรู้เรื่อง หลังจากมีพฤติกรรมแบบนี้ทางเจ้าของห้องเช่าก็ไล่ออกไปอยู่ที่อื่น เพราะกลางคืนไม่ยอมนอนเอาไฟฉายไปส่องสุนัขให้เห่าเล่นๆ หนวกหูชาวบ้าน พอเช้ามาก็โวยวายด่าทอคนอื่นไปทั่วเอามีดฟันต้นไม้ ไม่พอบางวันเอาปืนไปเดินแกว่งร้านสะดวกซื้อจนร้านเขาต้องปิดไฟเพราะพนักงานเป็นผู้หญิงคนเดียว ยังไม่พอยังขับรถหวาดเสียวบีบแตรคนที่ขับรถขวางไปเรื่อย ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้เริ่มตั้งแต่เวลา 05.00 น. ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ตื่นมาคนพาลูกไปเรียนก็ต้องหวาดผวา เพราะในซอบนี้เป็นซอยโรงเรียนเด็กนักเรียนเยอะช่วงเช้า คนแถวนี้เอือมระอากับพฤติกรรมกร่างแบบนี้จนจะทนไม่ไหว แม้จะไม่ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายก็ตาม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นปืนจริงหรือไม่หากลั่นขึ้นมาอาจจะมีคนเจ็บหรือเสียชีวิตได้ ส่วนตัวตนไม่ได้รู้จักนายสมเกียรติเพียงแต่เคยเห็น และรู้ว่าเคยขับแท็กซี่ ซึ่งอาการที่เป็นอยู่ตนก็ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร เพียงไม่อยากให้เขามาก่อเหตุแบบนี้อีก ซึ่งวันนี้ทางตำรวจสามารถจับตัวได้แล้วตนก็ขอให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อย่าปล่อยออกมาอีก ให้รับโทษตามกฏหมายหากปล่อยกลับมาคนแถวนี้ก็จะเดือดร้อนกันอีก ซึ่งก่อนหน้านี้ตนทราบว่าเมื่อวันที่ 18 ส.ค.67 ตำรวจได้เข้ามาจับกุมตัวนายสมเกียรติเนื่องจากเคยก่อเหตุเติมน้ำมันในปั้มย่านบางบัวทองแล้วไม่จ่ายเงิน จากนั้นตำรวจก็ได้พาไปรักษาที่โรงพยาบาลต่อคาดว่าอาจจะเป็นผู้ป่วยทางจิต แล้วก็ได้ถูกปล่อยตัวกลับมาวันที่ 22 ส.ค.67 จากนั้นก็มาตามอาละวาดโวยวายแถวนี้อย่างที่ตนได้กล่าวไว้
พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ท.ชนาธิป พานทอง รอง ผกกฯ ป. สภ.บางบัวทองพ.ต.ท.สีน้ำ นิยมพลอย สวป. สภ.บางบัวทอง ได้ร่วมจับกุมตัวนายสมเกียรติ งามทอง อายุ 48 ปี ที่อยู่ 152 ม.1 ต.หัวงัว อ.สนม จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยของกลาง คือ 1. อาวุธปืน(บีบีกัน ) จำนวน 1 กระบอก 2.รถยนต์ก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า สี เทา ทะเบียน 5 ฬ 9097 กรุงเทพมหานคร โดยตำรวจกล่าวหาว่า ต่อสู้ขัดขว้างเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ , ข่มขู่ให้ผู้อื่นทำให้เกิดความกลัวโดยการขู่เข็ญ
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้จัดการร้านสะดวกซื้อย่านบางบัวทอง ว่ามีชายลักษณะต้องสงสัย ชื่อ นายสมเกียรติ ขับขี่รถโตโยต้า สีเทา ทะเบียนรถ 9 ฬ 9097 กทม. ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันที่เคยก่อเหตุใช้อาวุธที่เคยมีพฤติการณ์ข่มขู่ในร้านสะดวกซื้อ ในวันที่ 26 ส.ค.67 เวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา ต่อมาวันนี้ 28 สิงหาคม 2567 เวลา 07.00 น.ชายดังกล่าวได้มาร้านสะดวกซื้ออีกครั้ง โดยได้ลงจากรถยนต์ แล้วลงมาพยายามจะเข้ามาภายในร้านสะดวกซื้อ พนักงานร้านสะดวกซื้อจึงได้ปิดล็อคประตูหน้าร้าน แต่ไม่สามารถเข้าได้ จากนั้นได้เดินไปหยิบกระเป๋าสีดำข้างหลังรถ แล้วถือกระเป๋าสีดำจะพยายามเข้าไปในร้านอีกครั้ง แต่ไม่สามารถเข้ามาได้ จึงได้ใช้มือทุบกระจกประตูและพนังร้านสะดวกซื้อและเดินไปทางด้านข้างร้าน พร้อมกับส่งเสียงโวยวายโดยพยายามจะเข้ามาภายในร้านสะดวกซื้อให้ได้ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินไปนั่งอยู่ในรถ ล้วงเอาปืนบีบีกัน ออกจากกระเป๋าที่ถือ แล้วชักอาวุธปืน เล็งปืนมายังนายพนักงานร้าน และพูดในทางลักษณะข่มขู่ ว่าอย่าเข้ามาไม่งั้นกูจะยิง หลบไป จากนั้นได้ขับรถหลบหนีรถหนีออกไปมุ่งหน้าวัดลาดปลาดุก เจ้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดโดยผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์หลบหนีมาถึงบริเวณท้ายซอยโรงเรียนสากลศึกษา จากนั้นได้ได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม เมื่อนายสมเกียรติได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ใช้อาวุธปืน เล็งมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมโดยยังนั่งอยู่ภายในรถยนต์โดยไม่ยินยอมให้ทำการจับกุมและได้พูดว่า (ใครเข้ามา กูจะยิง) จากนั้นจึงได้ขับรถหลบหนีต่อไป จึงได้ไล่ติดตามโดยขับรถแซงขึ้นทางซ้ายและขวาและใช้ความเร็วสูง เมื่อมาถึงบริเวณวัดลาดปลาดุกรถยนต์ชะลอรถลงเจ้าพนักงานตำรวจจึงสั่งให้หยุด และพยายามขับรถแทรกรถคันอื่นหลบหนีไปอีก โดยเจ้าพนักงานตำรวจได้พิจารณาแล้วเห็นว่าจะเกิดอันตรายแก่ผู้ใช้ถนนในขณะติดตามจับกุม ทางตำรวจ จึงได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงเข้าสกัดที่ล้อรถยนต์ข้างซ้ายด้านหลังจนแตกได้รับความเสียหาย เป็นเหตุให้รถเริ่มชะลอแต่นายสมเกียรติยังไม่ยอมหยุดรถและยังได้เร่งเครื่องหลบหนีต่อไปอีก และได้ยื่นปืนยื่นออกนอกตัวรถในลักษณะพร้อมใช้งานและได้ขับรถส่ายไปส่ายมาตลอดบนเส้นทาง จนมาถึง แยกโรงงานยาหม่อง ใกล้กับสะดวกซื้อ หมู่ที่ 4 ตำบลบางแม่นางอำเภอบางใหญ่จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ใช้รถกระบะ อีซุซุ ซึ่งเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ในปฎิบัติหน้าที่ ขับเข้าปาดหน้ารถนายสมเกียรติจึงทำให้หยุดรถได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้เข้าควบคุมตัวโดยรวดเร็วโดยการปัดป้องจากมือของนายสมเกียรติ จึงทำให้ปืนหล่นในที่เกิดเหตุก่อนตำรวจทำการจับกุมพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมาย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี