นายยุทธศักดิ์ หรือหนูอ่ำตระกูล อายุ 46 ปี พนักงานขับรถบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชัยยงค์ อ้วนมะโฮง รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมหลักฐานคำพูดสนทนาแชทข้อความคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่พยายามหลอกให้ตนเองส่งข้อมูลและเงินในสมุดบัญชีไปให้เขาตรวจสอบ โดยอ้างว่าบัญชีของตนเองมีส่วนพัวพันกับธุรกิจสีเทา
นายยุทธศักดิ์ เล่า ด้วยเสียงที่ยังตกใจ ไม่หายว่า ก่อนมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ตนเองได้รับโทรศัพท์จากเสียงผู้ชายที่โทรเข้ามายัง โทรศัพท์มือถือของตน ว่าบัญชีของตนเองมีส่วนพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย ขอให้ส่งหมายเลขบัญชีและเงินสดไปให้เขาตรวจสอบ โดยแจ้งว่าโทรมาจาก สภ.เมืองลำพูน ก่อนจะโอนสายให้ตนวีดีโอคอลคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงแนะนำตัวเองชื่อ ร.ต.อ.(หญิง)ปาริชาติ แสนแก้ว รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองลำพูน บอกให้ตนเองมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน แต่ระยะทางไกลอาจเดินทางไม่สะดวก จึงให้ตัวเอง App Line พูดคุย พร้อมทั้งแนะนำขั้นตอนให้ตนเองส่งข้อมูลหลักฐานทุกอย่างที่มีรวมทั้งสมุดบัญชีและเงินสดในธนาคารไปให้เขาตรวจสอบมิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดี
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. เมืองนนทบุรี จึงให้นายยุทธศาสตร์ โทรคุยทางไลน์กับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปรากฏว่าปลายสายเป็นผู้ชาย พูดจาข่มขู่ ว่าไม่ทำตามขั้นตอนที่เขาแนะนำ และรู้นะว่าพยายามหลบหนีอยู่ขณะนี้ ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ. เมืองนนทบุรีได้พูดแทนนายยุทธศักดิ์ โดยอ้างว่าหลบหนีจริงตอนนี้อยู่ชายแดนเขมร ปลายสายจึงบอกว่าหนียังไงก็หนีไม่พ้นเดี๋ยวก็จะตามจับกลับมาเอง สร้างความ ครื้นเครงหัวเราะให้ทั้งตัวนายยุทธศักดิ์และพนักงานสอบสวน โดยนายยุทธศักดิ์เองเชื่อว่า ตนถูกหลอกจริงๆ โชคดีที่ไม่โอนหลักฐานต่างๆรวมทั้งเงินสดในธนาคารไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตรวจสอบ มีเพียงถ่ายบัตรประชาชนส่งไปทางไลน์เท่านั้น ทำให้ตนเองรู้สึกไม่สบายใจกลัวจะถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี จึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และฝากถึงคนที่ถูกหลอกในลักษณะนี้ว่าอย่าได้หลงเชื่อเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะสูญเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างแน่นอน
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี