พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางศรีเมือง พ.ต.ท.พงค์นเรศ ศิริเสถียร สว.สส.สภ.บางศรีเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.บางศรีเมือง ได้เชิญตัวนายสมชาย อายุ 46 ปี นายสมศักดิ์ อายุ 41 ปี นายวิโรจ อายุ 54 ปี พร้อมของกลาง คือ 1.ถังผ้าป่าสามัคคีสบทบทุน บูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถวัดร่องเพกา จ.ลพบุรี มีต้นผ้าป่าเงินสดประมาณ 500 บาท จำนวน 2 ถัง 2.บาตรพระจำนวน 1 ใบ 3.รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน 2ฒว7194 กทม. ติดป้ายผ้าป่าสามัคคีสบทบทุน บูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถวัดร่องเพกา จ.ลพบุรี
สืบเนื่องจากตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.บางศรีเมือง ได้ออกตรวจพื้นที่ตามปกติปรากฏว่าขณะถึงบริเวณ ชุมชนท่าน้ำบางศรีเมือง หมู่ที่ 3 ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ได้พบนายสมชาย นายสมศักดิ์ และนายวิโรจ ขับรถตระเวนถือถังผ้าป่าเรี่ยไรเงินชาวบ้าน จึงได้ลงไปตรวจสอบพบว่าทั้ง 3 ราย ไม่มีใบอนุญาตเรี่ยไรของกรมการปกครองในพื้นที่ จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานก่อนเชิญตัวมาที่สภ.บางศรีเมือง พร้อมของกลางทั้งหมด ขณะที่มาถึงห้องสืบสวนทางด้านนายสมชาย ซึ่งเป็นคนขับรถได้นำเอกสารหนังสือรับรองของทางวัดร่องเพกา จ.ลพบุรี ที่มีตราประทับว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของวัดจริง มาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อจึงๆได้ติดต่อไปยังเบอร์ของไวยาวัจกรที่นายสมชายอ้างว่าเป็นคนให้มาเรี่ยไรเงินผ้าป่าสามัคคี นำรายได้เข้าวัด หลังจากที่ตำรวจโทรไปปรากฏว่าผู้ที่รับสายคือนายดิน ซึ่งอ้างว่าเป็นไวยาวัจกรของวัดจริง ได้บอกกับตำรวจว่านายสมชายเป็นเจ้าหน้าที่ของวัดจริง และมีใบอนุญาตจากวัด ไม่รู้ว่าต้องไปยื่นที่ปกครองพื้นที่ถึงจะสามารถเรี่ยไรเงินได้ ตำรวจจึงได้เรียกนายดินให้มาสอบปากคำ แต่ทางนายดินไม่สะดวกเดินทางมา พร้อมบอกกับตำรวจว่ามีหมายเรียกถึงจะเข้าไป จากนั้นตำรวจจึงได้นำนายสมชาย นายสมศักดิ์ และนายวิโรจ ไปจ่ายค่าปรับกับพนักงานสอบสวน ในความผิดพ.ร.บ.ควบคุมเรี่ยไรทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเสียค่าปรับคนละ 200 บาท
นายสมชาย คนขับรถ เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับไวยาวัจกรวัดร่องเพกา จ.ลพบุรี ชื่อนายดิน รู้จักกันมานานแล้ว ได้ขอความช่วยเหลือตน ให้ช่วยกระจายบุญนำถังผ้าป่าสามัคคีสบทบทุน บูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถวัดร่องเพกา หลังถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง ไปกระจายบุญที่ไหนก็ได้ รายได้ที่ได้มาก็จะนำมาบูรณะโบสถ์ ส่วนค่าจ้างก็แล้วแต่ตนจะหักไปเป็นค่าน้ำมัน และค่าข้าวในแต่ละมื้อ เพราะทีมงานตนมีทั้งหมด 3 คน ซึ่งตนไม่ได้ออกมาเรี่ยไรเงินทุกวัน อาทิตย์นึงจะออก 2-3 วัน โดยจะออกช่วงประมาณ 08.00 – 13.00 น. หากจำนวนเงินครบ 3,000 บาท ตนก็จะโอนให้กับลุงกินไวยาวัจกร จากนั้นลุงดินจะเป็นคนจัดการโอนเข้าวัดเอง ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าอาวาสทราบเรื่องอยู่แล้ว ส่วนตนก็หักค่าน้ำมันไปหากได้ประมาณ 3,000 บาท ตนก็จะหักประมาณ 1,000 บาท ส่วนในการลงพื้นที่เรี่ยไรในแต่ละครั้งได้แบ่งหน้าที่กันโดยตนเป็นคนขับรถ ส่วนอีกสองคนเพื่อนตนเป็นเดินบอกบุญกระจายบุญถือถังผ้าป่าให้กับชาวบ้าน
หลังจากตำรวจได้ทำการเปรียบเทียบปรับในความผิดพ.ร.บ.ควบคุมเรี่ยไรทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต คนละ 200 บาท ตำรวจได้ทำการตรวจสอบประวัติทั้ง 3 ราย พบว่านายสมศักดิ์ ได้มีหมายจับจากสถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ในข้อหาขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน , กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส , ขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ ตำรวจจึงประสานไปยังสถ.เมืองราชบุรี ให้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ตำรวจได้ทำการตรวจสารเสพติดในร่างกายพบว่านายวิโรจ มีสารเสพติดในร่างกาย จึงทำการแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว ข.นนทบุรี