พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร.) ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อเร่งรัดขับเคลื่อนงานความมั่นคงในพื้นที่ภาคเหนือ ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งให้ความสำคัญในการรักษาความมั่นคง ความสงบเรียบร้อย และแก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงในทุกรูปแบบ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้บรรลุผลสำเร็จ เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างสูงสุดนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้นำนโยบายมาสู่การปฏิบัติ โดยได้มอบหมาย พล.ต.ท.ประจวบฯ ขับเคลื่อนงานความมั่นคงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ให้บรรลุผลสำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้ร่วมพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมี นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน โดย พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้บรรยายพิเศษ หัวข้อ “นโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” และพบปะสมาชิกสันนิบาตเทศบาลจังหวัดเชียงใหม่ และผู้นำท้องถิ่นภาคเหนือ กว่า 1,200 คน ณ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมแสวงหาแนวทางและใช้กลไกความร่วมมือเครือข่ายผู้นำท้องถิ่นและประชาชน ร่วมป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ปัญหาความมั่นคง ชุมชนต้องเข้มแข็งและยั่งยืน
จากนั้น พล.ต.ท.ประจวบฯ ได้ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ ส.ต.อ.ชินวุฒิ มันทนา ผบ.หมู่ กก.ตชด.33 ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ถูกยิงบริเวณช่องท้องและต้นขา จำนวน 2 นัด ขณะเข้าจับกุมคดียาเสพติด บริเวณบ้านห้วยตุ๊บ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา และพักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ พร้อมมอบสิ่งของและเงินบำรุงขวัญ ตลอดจนกำชับให้หน่วยงานต้นสังกัดเร่งรัดสิทธิประโยชน์ให้ได้รับครบถ้วนโดยเร็ว
พล.ต.ท.ประจวบฯ ยังได้กำชับการแก้ไขปัญหาการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ต้องปราบปรามขบวนการรับตัวจากชายแดน ซุกซ่อนมากับรถเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ทั้งเส้นทางหลักและเส้นทางรอง มีรถนำคล้ายกับขบวนการขนยาเสพติด ซึ่งจากสถานการณ์ภายในประเทศเมียนมา ทำให้มีการหลบหนีเข้ามาหางานทำในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เกิดปัญหาด้านความมั่นคง อาชญากรรมต่าง ๆ จึงต้องเร่งจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวโดยเร็ว พร้อมทั้งเร่งรัดปราบปรามองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติทุกรูปแบบ กลุ่มผู้มีอิทธิพล กลุ่มทุนสีเทา ซึ่งมักใช้พื้นที่ตามแนวชายแดนประเทศไทยเข้า – ออก ไปประเทศเพื่อนบ้านทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อกระทำผิดกฎหมาย เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ เป็นต้น ต้องพิจารณารื้อถอนเสาสัญญานอินเตอร์เน็ต ตรวจค้นแหล่งพักพิงสำหรับใช้เป็นที่กระทำผิด การจับกุม ขยายผล และดำเนินการตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ในมาตรการยึดทรัพย์ พร้อมทั้งกวดขันการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี และของเถื่อนต่างๆ อีกทั้งได้เน้นย้ำไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด
ภาพ-ข่าว นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่