ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางลัดดา ปานปูน อายุ 65 ปี นายชาญ ปานปูน อายุ 68 ปี สองสามีภรรยา และชาวบ้านอีกกว่า 12 หลังคาเรือน ที่อาศัยอยู่ติดริมถนน345 บางบัวทอง-ปทุมธานี ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับความเดือดร้อนจากแขวงทางหลวงได้มีการก่อสร้างถนน แล้วรื้อท่อระบายน้ำทิ้งที่ฝังไว้ใต้ดินออก หลังจากทำถนนเสร็จไม่มีการสร้างท่อระบายน้ำกลับคืน ทำให้เวลาฝนตกมีน้ำท่วมขังภายในบ้านสูงประมาณ 30-40 ซม. ต้องเสียเงินซื้อเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำทิ้งลงคูน้ำริมถนนสาธารณะเอง
นางลัดดา กล่าวว่า ตนได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังภายในบ้านเป็นเวลานาน โดยน้ำท่วมขังกว่า 40 ซม. หลังฝนตกทุกครั้ง ต้องซื้อเครื่องสูบน้ำกว่า 2 ตัว ราคาตัวละประมาณ 8,000 บาท มาใช้สูบน้ำเกือบทุกวัน เนื่องจากหน้าบ้านตนเคยมีท่อระบายน้ำ แต่ทางหลวงได้มาขยายทำถนนแล้วฝังกลบท่อไปเลย ไม่ยอมมาวางท่อให้ใหม่ ตอนนี้ต้องสูบน้ำจากบ้าน ลงคูน้ำริมถนนสาธารณะเอง ทำให้คูน้ำริมถนนมีน้ำขังอยู่ตบอด ตนต้องทำแบบนี้เพราะว่าหมดหนทาง ประสานไปยังแขวงทางหลวงก็ยังไม่มีการลงพื้นที่จึงนำเรื่องมาร้องเรียนสื่อมวลชน เพราะชาวบ้านไม่ได้เดือดร้อนแค่ตนคนเดียวบริเวณนี้มีมากกว่า 10 หลังคาเรือนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะเวลาที่มีฝนตก
ส่วนทางด้านนายชาญ กล่าวว่า ตอนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากตอนนี้พื้นที่หน้าบ้านตน และชาวบ้านบริเวณนี้ต่ำอยู่แล้ว แต่กลับไม่มีที่ระบายน้ำ เนื่องจากถูกรื้อไปหมดแล้ว ตอนนี้เหนื่อยมากฝนตกแต่ละทีต้องคอยสูบน้ำตลอด บางครั้งชักโครกก็ราดไม่ลง เดือดร้อนมาตั้งแต่ปลายเดือนธันวา 2566 จนถึงตอนนี้แขวงทางหลวงยังไม่มีการเข้ามาตรวจสอบแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ก็ได้ยื่นหนังสือเขียนคำร้องไปที่ อบต.คลองข่อย ในเบื้องต้นไปแล้ว ทางอบต.ก็รับเรื่องแล้วแจ้งว่า ต้องรอทางแขวงทางหลวงมาดำเนินการ ทางอบบต.ได้แจ้งข้อมูลไปกับแขวงทางหลวงแล้ว ความต้องการตอนนี้อยากจะให้แขวงทางหลวงได้ดำเนินการฝังท่อระบายน้ำจากถนนลงคลองไปเลย ทั้งนี้ยังเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายคือค่าไฟเพิ่มขึ้นจากเดิมตนเสียอยู่ 16,000 บาท ตอนนี้ขึ้นเป็น 21,000 บาท จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบมาดำเนินแก้ไขให้ชาวบ้านอย่างเร่งด่วน
ต่อมาทางด้านนายคำรณ บางจริง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองข่อย พร้อมด้วยนายทรงวุฒิ อิศรวิชิตชัยกุล ผอ.กองช่าง อบต.คลองข่อย พร้อมทีมงานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเดือดร้อนชาวบ้าน พร้อมให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า กรณีดังกล่าวทางอบต.บางพลัด ได้รับเรื่องจากลูกบ้านมาแล้ว ซึ่งตนกับลูกบ้านก็มีการพูดคุยกันตลอดรู้จักกันมานาน ตนก็ได้ประสานไปยังแขวงทางหลวงก็รับทราบเรื่องนี้แล้ว จากการที่พูดคุยกันทางหลวงก็แจ้งมาเบื้องต้นว่าเครื่องมือยังไม่พร้อม ทาง อบต.ตอนนี้ก็รับเรื่องแล้ว แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าท่อระบายน้ำตันเพราะอะไร จากการลงพื้นที่ตรวจสอบวันนี้ก็พบว่าชาวบ้านที่อยู่ริมถนนดังกล่าว เดือดร้อนจริง ทั้งนี้ก็ต้องรอทาฃ ผอ.แขวงทางหลวง มาลงพื้นที่มาดูแนวทางอีกครั้งว่าจะแก้ปัญหาให้ชาวบ้านในเบื้องต้นได้อย่างไรบ้าง ตอนนี้ชาวบ้านมีอะไรที่เดือดร้อน ทางอบต.บางพลัด ก็ยินดีช่วยเหลือบรรเทาในเบื้องต้นได้ทางตนก็จะช่วยเต็มที่
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามกับทางด้านนายโสภณ สังข์แป้น รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนนทบุรี ให้ข้อมูลว่า แขวงทางหลวงนนทบุรีทราบความเดือดร้อนของชาวบ้านแล้ว พร้อมกับชี้แจงว่าแขวงทางหลวงนนทบุรีไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้มีการประสานมายังหมวดทางหลวงไทรน้อยซึ่งเป็นพื้นที่ดูแล เพื่อให้ลงพื้นที่สำรวจหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องการระบายน้ำ
ขณะนี้ ทางหมวด อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ว่าจะสามารถทำทางระบายน้ำชั่วคราวเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านในเร่งด่วนอย่างไรได้บ้าง ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวนั้นขณะนี้กรมทางหลวงมีนโยบายขยายถนนเส้น 345 อยู่ในแผนงานอยู่แล้ว และในอนาคตก็จะต้องมีการสำรวจบริเวณบ้านของชาวบ้านเพื่อตรวจสอบดูว่ามีบริเวณใดที่ยังขาดตกบกพร่องเรื่องของการระบายน้ำอยู่ หลังจากนี้จะมีการประสานหน่วยงานในพื้นที่เพื่อช่วยกันสนับสนุนเครื่องมือ เพื่อนำมาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับชาวบ้าน
ภาพ/ข่าว ฉัตรมงคล สิงห์โต ผู้สื่อข่าว จ.นนทบุรี