ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.30 น. ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิริธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษได้รับแจ้งว่ามีผู้ก่อความไม่งบเข้ามาหลบซ่อนตัว เพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ ต.เกะรอ อ.รามัน จ.ยะลา จึงได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบ โดยขอความร่วมมือจากผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา ในการเจรจา ให้ผู้ก่อความไม่สงบที่หลบซ่อนตัวอยู่ภายในที่พักออกมามอบตัว ต่อมาได้มีนายคอและ เซ็ง อายุ 37 ปี ได้ออกมามอบตัวและยินยอมให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นที่พักอาศัยอย่างละเอียด โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก็พบว่า นายคอและ เซ็ง เป็นผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวเพื่อดำเนินกรรมวิธีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนในพื้นที่ จ.ปัตตานี หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ก่อความไม่สงบที่หลบซ่อนตัว ภายในบ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 2 ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี ในระหว่างกระจายกำลังเข้าปิดล้อมและเจรจาให้คนร้ายออกมามอบตัว แต่คนร้ายกลับใช้อาวุธยิงใส่เพื่อเปิดทางหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องตอบโต้ ผลการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ปลอดภัย ส่วนคนร้ายเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อภายหลัง คือ นายมะยากี มะลาซิง อายุ 30 ปี ข้างศพพบอาวุธปืนพกขนาด .38 ซุปเปอร์  1 กระบอก และระเบิดขว้างแบบไปป์บอมบ์ จำนวน 2 ลูก ของคนร้ายตกอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จึงได้ดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาที่มาและประวัติการก่อเหตุร้ายต่อไป

สำหรับ นายมะยากี มะลาซิง  เป็นผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี   มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 5 หมาย มีการก่อเหตุเชื่อมโยงกับเหตุการณ์บังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ป่าสาคู รอยต่อ ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 5 – 11 ก.ค.64 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นายมะยากี ยังมีความเกี่ยวข้องกับการลอบวางระเบิด ในพื้นที่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 – 2 ส.ค.62 ที่ผ่านมาอีกด้วย

โดยการปฏิบัติในครั้งนี้ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาค 4 /ผอ.รมน.ภาค 4 ได้กำชับให้หน่วยดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างรัดกุม เน้นย้ำการเจรจาให้คนร้ายออกมามอบตัว และคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ ซึ่งประสบผลสำเร็จในพื้นที่ จ.ยะลา ส่วนในพื้นที่ จ.ปัตตานี คนร้ายยิงต่อสู้จึงทำให้เกิดการเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งหากไม่มีการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ก็จะไม่เกิดการสูญเสียขึ้น ทาง กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอขอบคุณพี่น้องประชาชน ที่ให้ข้อมูลคนร้ายที่เข้ามาหลบซ่อนพักพิงในพื้นที่ ทั้ง 2 แห่ง ทั้งนี้หากพบสิ่งผิดปกติและความเคลื่อนไหวของผู้ก่อเหตุรุนแรงสามารถแจ้งข้อมูลเข้ามายังเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ หรือ หมายเลขสายตรงไปยัง แม่ทัพภาค 4/ผอ.รมน.ภาค 4 หมายเลข 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ภาพ-ข่าว อะหมัด รามันห์สิริวงศ์/ยะลา/