พ.ต.อ.อรรถพล พลพรม ผกก.5 บก.ทล.มอบหมายให้  พ.ต.ท.เจต จึงประเสริฐศรี สว.ส.ทล.5 บก.ทล.ได้นำหมายศาลจังหวัดเชียงรายดำเนินคดีกับนายวริสสร สงวนนามสกุล อายุ 40 ปี และนายกานต์ สงวนนามสกุล  อายุ 43 ปีชาว ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย หลังจากทั้งคู่ได้กระทำผิดกฎหมายจราจร และแจ้งใบสั่งหลายครั้ง โดย นายวริสสร พบการกระทำความผิดตามใบสั่งจำนวน 53 ครั้ง ส่วนนายกานต์ได้รับจำนวน 25 ครั้ง แต่ไม่เคยไปชำระค่าปรับทำให้ตำรวจจึงขออนุมัติหมายจับจากศาลแขวง จ.เชียงราย และเข้าทำการจับกุมนายวริสสรได้ที่ร้านค้าแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครเชียงรายและจับกุมนายกานต์ได้ที่บ้าน

จากนั้นได้แจ้งข้อหาตามใบสั่งให้ทราบว่ามีกากระทำผิดกฎจราจรเป็นประจำ โดยเฉพาะขับรถฝ่าฝืนสัญญานไฟจราจรสีแดง และฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรบนพื้นทาง ซึ่งมีอัตราโทษ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตาม พ.ร.บ.ทางหลวง ปี 2535 มาตรา 5(2) ,มาตรา 69 ข้อหาฝ่าฝืนไม่ชำระครับปรับภายในกำหนดเวลาตามใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร โดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งมีอัตราโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท  ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ปี 2522 มาตรา 155 และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนข้องผู้อื่น ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43(8),มาตรา 160 ด้วย ซึ่งหลังจากเข้าควบคุมตัวแล้วได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นนายวริสสรให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาแต่นายกานต์ให้การปฏิเสธ

พ.ต.ท.เจต กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายเพราะพบว่ามีการฝ่าฝืนสัญญานไฟจราจรสีแดง และฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรบนพื้นทางตามแยกต่างๆ ในพื้นที่ จ.เชียงราย ในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาเป็นจำนวนมากและเมื่อได้รับใบสั่งแล้วกลับไม่เคยไปชำระค่าปรับทั้งยังกระทำผิดอีกอย่างต่อเนื่องซ้ำซากโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงถือว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมทาง ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่นและเพื่อเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งให้ประชาชนได้รับประโยชน์เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีฟ้องต่อศาลต่อไป จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรเพราะกรณีนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ว่าหากทำผิดซ้ำซากจะมีโทษทั้งจำและปรับดังกล่าว

ภาพ-ข่าว ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย