จากกรณีที่สำนักกิจการต่างประเทศ เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ได้มีส่งเอกสารแจ้งถึงการเปิดท่าเรือกวนเหล่ย ให้เรือสินค้าสามารถใช้เส้นทางการเดินเรือเพื่อนำส่งสินค้าจากประเทศต่างๆ เข้าไปยังประเทศจีน ผ่านยังแม่น้ำโขง ไปยังท่าเรือกวนเหล่ย โดยมีการเปิดให้ใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.65 ที่ผ่านมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีหนังสือถึงสำนักประสานงานเขตปกครองพิเศษที่ 4 รัฐฉานตะวันออก ประเทศเมียนมา โดยมีเนื้อหาว่าจากกรณีทางการจีนได้ปิดท่าเรือกวนเหล่ยมาตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.2563 เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยงดให้บริการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ทำให้เกิดผลระทบต่อธุรกิจขนส่งสินค้าในแม่น้ำโขงอย่างหนัก  เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาการใช้ประโยขน์ในแม่น้ำโขง ทางการจีนจึงได้ปรับวิธีการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบันโดยกลับมาเปิดท่าเรือกวนเหล่ยอย่างเป็นทางการอีกครั้งโดยมีความพร้อมด้านพิธีการทางศุลกากรและการขนส่งสินค้าแล้ว

น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย กล่าวอีกว่าตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ทางการจีนปิดท่าเรือกวยเหล่ยซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านของจีนในแม่น้ำโขง ทำให้มูลค่าการค้าชายแดนทางเรือแม่น้ำโขงสูญหายไปปีละหลายหมื่นล้านบาท และหากรวมกันประมาณ 3 ปีก็จะสูญเสียกว่า 100,000 ล้านบาท  ซึ่งก็ขอชักชวนผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ที่ทำการค้าชายแดนไทยระหว่างไทย-จีน ได้ติดต่อเพื่อขนส่งสินค้าทางเรือแม่น้ำโขงเพื่อลดต้นทุนระหว่างไทย-จีน เพราะขนสินค้าได้ครั้งละ 200-300 ตัน มากกว่าทางบก  การเปิดท่าเรือกวนเหล่ยครั้งนี้ยังอนุญาตให้เฉพาะการขนส่งสินค้าเท่านั้นโดยยังไม่อนุญาตให้คนเรือขึ้นฝั่ง ซึ่งทางผู้ประกอบการที่จะขนส่งต้องแจ้งรายละเอียด เช่น ชนิดสินค้า จำนวนคนบนเรือ   ก่อนขนสินค้าไปยังประเทศจีน  เชื่อว่าช่วงแรกในรอบสัปดาห์นี้จะมีเพียงการติดต่อด้านธุรกิจกันและหลังจากนั้นการขนส่งทางเรือจึงค่อยคึกคักตามมาโดยเฉพาะสินค้าประเภทสินค้าแช่แข็งที่เคยส่งออกไปเป็นจำนวนมากแต่ก็ต้องซบเซาลงเมื่อมีการปิดท่าเรือกวนเหล่ยที่ผ่านมา

“เขตปกครองพิเศษที่ 4 ของประเทศเมียนมา เป็นที่ตั้งของท่าเรือสบหรวยซึ่งเป็นเมืองท่าในแม่น้ำโขงที่สำคัญของประเทศเมียนมา และความเกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างไทย-เมียนมา-จีน รวมไปถึงเมืองลาซึ่งเป็นเมืองเอกของเขตปกครองพิเศษนี้ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาท่าเรือสบหรวยก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 เช่นกันดังนั้นเมื่อท่าเรือกวนเหล่ยของจีนซึ่งปิดทำการมาได้ 2 ปีกว่าทำให้ท่าเรือสบหรวยปิดตามไปด้วย  การที่ท่าเรือกวนเหล่ยกลับมาเปิด และชักชวนให้ท่าเรือสบหรวยเปิดตามจึงเป็นเรื่องที่ดีอย่างมากเพราะหากเปิดพร้อมกันก็จะทำให้การค้าทางเรือในแม่น้ำโขงกลับมาคึกคักอีกครั้ง” น.ส.ผกายมาศ กล่าว

ภาพ-ข่าว ณัฐวัตร ลาพิงค์ จ.เชียงราย