ตำรวจ สภ.แม่สาย ภายใต้การอำนวยการของ   พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย  พ.ต.อ.มานพ เสนากูล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.พิพัฒน์ นาระเดช ผกก.สภ.แม่สาย , พ.ต.ท.คมกฤช  ไชยสาร รอง ผกก.ป.ฯ ,พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร รอง ผกก.สส.ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.รัชพล  สะสม สว.สส.สภ.แม่สาย , ร.ต.ต.อรุณ  สุขีสาร รอง สว.(สส) สภ.แม่สาย พร้อมด้วยชุดสืบสวน ออกตรวจพื้นที่ตามแนวชายแดนเพื่อสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในเขตพื้นที่รับผิดชอบ

โดยได้ตรวจสอบบริเวณท่าน้ำติดป่ากล้วย ม.7 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เห็นชายลักษณะท่าทางมีพิรุธอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำรวก ประเทศเมียนมา จึงเฝ้าสังเกตุการณ์ จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ข้ามน้ำมายังฝั่งประเทศไทย ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัว เมื่อชายคนดังกล่าวทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิ่งหลบหนี  จึงได้วิ่งไล่ติดตามและทำการควบคุมตัว จากการสอบถามชายดังกล่าว แจ้งว่าตนชื่อนายสมบูรณ์ อายุ 30 ปี ให้การว่าต้องการข้ามน้ำมาประเทศไทยเพื่อมาหาแฟนสาว

จากการตรวจสอบประวัติพบ นายสมบูรณ์ พบว่ามีหมายจับของศาลจังหวัดนนบุรี จำนวน 4 หมาย ด้วยกัน เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.บางบัวทอง คือ 1.หมายจับศาล จ.นนทบุรี ที่ 266/63 ลง 11 มิ.ย.63 ข้อหา “สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติดฯ”  2.หมายจับศาล จ.นนทบุรี ที่ 336/63 ลง 31 ส.ค.63 ข้อหา “ร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ” 3.หมายจับศาล จ.นนทบุรี ที่ 337/63 ลง 31 ส.ค.63 ข้อหา “ร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ” 4.หมายจับศาล จ.นนทบุรี ที่ 339/63 ลง 31 ส.ค.63 ข้อหา “ฟอกเงิน”

หลังจากตรวจสอบข้อมูลแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งสิทธิและข้อกล่าวหาให้ทราบว่า มีความผิดฐาน 1.ไม่เข้าออกราชอาณาจักรตามช่องทางที่กำหนด, 2.ผ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความใน มาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน, 3.ฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายที่ 1367/2563 ลงวันที่ 20 มี.ค.2563 เรื่องระงับการเดินทางเข้า-ออกของบุคคลฯ โดยนายสมบูรณ์ได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ภาพ-ข่าว ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย