นายทินกร พิริยโยธา ผ.อ.ศูนย์ป่าไม้จังหวัดอุทัยธานี นายพลกฤษณ์ ผิวคล้ำ ชุดปฏิบัติการพิเศษพยัคฆ์ไพร พร้อมกำลัง ประสานร่วมกับ  เจ้าหน้าทีเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่.อน.9 (บ้านหนองปรือ) อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี พร้อมสนธิกรรมลังกับ ร.ต.ต.อนันต์ สมอาจ เจ้าหน้าที่ ปทส.สภ.บ้านไร่ ร่วมกันออกตรวจ ตั้งด้านตามจุดตรวจจุดสกัด ติวเข็ม บนถนนทางเข้าออกหมู่บ้านอีเล่ย และพื้นที่จะลงมาจากพื้นทีสูงตำบลแก่นมะกรูด  บริเวณถนนสถานที่ล่อแหลมต่าง ๆ โดยนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มอบให้นายพลกฤษณ์ ผิวคล้ำ ชุดปฏิการพิเศษพยัคฆ์ไพร พร้อมกำลังลงพื้นที่

ซึ่งก่อนหน้านั้นเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่.อน.9 (บ้านหนองปรือ) อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี  ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาตัดโค่นไม้ บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าท่ากวย และป่าห้วยกระเวน หมู่ 6 บ้านอีเล๋ย ต.เจ้าวัด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี  หลังจากนั้นจึงสนธิกรรมลังกับเจ้าหน้าที่ชุด ปทส.สภ.บ้านไร่ ได้ร่วมกันออกตรวจสอบร่วมกันตามที่สายได้รับแจ้งมา  ในเวลาเทียงคืน  ในระหว่างทีขับรถยนต์ลาดตระเวรอยู่นั้น  ได้มีชายไม่ทราบชื่อนั่งอยู่บนกองไม้ข้างทางในป่า  ได้ส่องไปฉายมาที่รถของเจ้าหน้าที่เพื่อส่งสัญญาณ เจ้าหน้าที่จึงขับรถเข้าไปพร้อมกับได้แสดงตัว  ทราบชื่อผู้ส่งไฟฉายนายสุชาติ อายุ 38 ปี  พร้อมไม้แดงของกลางท่อนเป็นท่อนจำนวน 7 ท่อน ปริมาณ 1.14ปริมาณ พร้อมของกลาง มีด ตะปู 50 ดอก ไฟฉาย 

จากการสอบถามนายสุชาติ ให้การรับสารภาพว่า เจ้าของไม้คือนายแต๊ก ไม่ทราบนามสกุล ได้ว่าจ้างตนเอง มาช่วยยกไม้ที่ว่างอยู่ข้างทาง ขึ้นรถยนต์ ตนเองจึงมานั่งรอรถยนต์ที่กองไม้แดง   ในระหว่างที่นั่งรอตนเองเห็นไฟรถยนต์   คิดว่าเป็นรถยนต์มาขนไม้ท่อน จึงได้ฉายไฟเพื่อเป็นสัญญาณให้ 

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา 1/ มารตรา 11 ฐาน ร่วมกันทำไม้หวงห้าม โดยมิได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญติป่าไม้ พุทธศักราช 2484  2/ มารตรา 69 ฐานร่วมกันมีไม้แดง หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป ไว้ในการครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต ตามราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484  และ 3/มาตรา 14 ฐาน ร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติมิได้รับอนุญาติ       

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาปันโส  ว่ามีขบวนการทำไม้บริเวณเทือกเขาป่าบ้านอีเล่ย หมู่ 6 ต.เจ้าวัด อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี บริเวณภายในป่าสงวนแห่งชาติ ป่าท่ากวย และป่าหวยกระเวน  หลังจากได้รับแจ้งจึงได้สนธิกำลัง ออกลาดตระเวร ยังเทือกเขาดังกล่าว พบกองไม้แปรและไม้รังท่อนจำนวนหนึ่ง   โดยไม่พบผู้ต้องหาในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบนับจำนวนไม้ รวมไม้รังท่อนจำนวน 5 ทอน ปริมาตร 1.45 ม ค่าเสียหายของรัฐ 25.025 บาท ไม้รังแปรรูป จำนวน 21 แผ่น ปริมาตร 0.88 ม ค่าเสียหายรัฐ 30.800บาท

หลังจากนั้นนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้  ได้รับทราบจึงได้มอบให้นายพลกฤษณ์ ผิวคล้ำ ชุดปฏิการพิเศษพยัคฆ์ไพร พร้อมกำลัง ประสานร่วมกับเจ้าหน้าทีเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่.อน.9 (บ้านหนองปรือ) อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี พร้อมสนธิกรรมลังติวเข็มกับพื้นที่ดังกล่าวกับขบวนการทำไม้ที่ยังมีอยู่

https://youtu.be/j_nIaeya740

ภาพ-ข่าว พชร พัสกุล  สมาคมสื่อมวลชนอุทัยธานี