นางทรงรักษ์   แสนโท  42ปี  ผู้เป็นน้าของนายเฉลิม  สุรารักษ์ อายุ39ปีผู้เสียชีวิตจากรถชนกล่าวทั้งน้ำตาน้องหน้าว่า หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุ รถตำรวจชน รถจักรยานยนต์ที่หลานของตน ขับมา นานกว่า 3 ชั่วโมง ตนจึงได้ทราบข่าวจากตำรวจ ทำไมต้องปล่อยให้ระยะ ติดต่อหายาวนานถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่ ในกระเป๋า ของผู้ตายที่คล้องคออยู่นั้น ก็พกบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมเบอร์โทร เมื่อเราถามหากล้องวงจรปิด กล้องติดหน้ารถยนต์ รถตู้ที่ตำรวจขับมานั้น ถูกปฏิเสธบอกว่ากล้องเสีย และทำไมต้องเก็บอุปกรณ์ต่างๆ เป็นต้นว่า รถของผู้เสียชีวิต รถตู้คันที่เกิดอุบัติเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เป็นรถตู้ที่ ชน เก็บชากรวดเร็วถึงขนาดนั้น ตามหารถตู้ก็ไม่เจอ

 โดยอ้างว่านำไปเคลมบริษัท เข้าซ่อมแล้วซึ่งมันคล้ายๆกับว่า เก็บหลักฐานทุกอย่าง ไม่ให้เหลือร่องรอย ส่วนที่อ้างว่าหลานของตนเมาสุรานั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตนไปตรวจสอบเช็คดูที่โรงพยาบาลแล้วไม่มีฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แต่อย่างใด อีกอย่าง ต้นไปแจ้งความที่สภ.ปทุมราชวงศา ก็ไม่ได้รับความร่วมมือไม่ยอมให้แจ้งความ วันนี้ตน และญาติๆมาขอแจ้งความที่สภ.เมืองอำนาจเจริญ ก็ไม่รับแจ้งความอีกเช่นกัน โดยบอกว่าให้ไปแจ้งในที่ อำเภอที่เกิดเหตุ ต้นและญาติจึงกลับมาแจ้งที่โรงพักปทุมราชวงศาอีกครั้ง ต้นเชื่อว่า พวกตนไม่ได้รับความเป็นธรรม จากคู่กรณี ที่เป็นตำรวจเลยแม้แต่น้อย ซึ่งทางตำรวจได้ออกมาปฏิเสธลูกเดียว และ บ่ายเบี่ยงเอนเอียง กล่าวหาต่างๆ ให้หลานของตนที่เสียชีวิตเป็นคนผิด ในขณะที่ตนขอวงจรปิดกล้องหน้ารถ จากรถตำรวจคันดังกล่าว กลับได้รับคำตอบว่ากล้องเสีย มันเป็นไปได้ยังไงรถใหม่ๆของตำรวจมีกล้องติดหน้ารถ แล้วบอกว่ากล้องเสีย ตนไม่เชื่อ และมายัดเยียดว่าหลานของตนเมาขับรถย้อนศร ซึ่งมันไม่เป็นความจริง จนมีหลักฐาน

ทางด้านนายบุญหลาย    สุรารักษ์   อายุ 57ปี  อยู่บ้านเลขที่ 72หมู่ 4  ตำบลเหล่าพรวน อ.เมือง จังหวัดอำนาจเจริญ ให้สัมภาษณ์ว่า ตำรวจพูดกลับไปกลับมา ก่อนเกิดเหตุตนไปที่เกิดเหตุ ตำรวจบอกว่าจะรับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่าง ให้ตนถอยออกไป อย่าเข้ามาใกล้ แต่พอ มาพักหลัง กลับปฏิเสธ บอกว่าลูกของตนผิด ทำไมพูดกับหน้ากับหลัง ตนไม่ยอม จะนำหลักฐานเอกสารทั้งหมด เข้าร้องทุกข์ต่อทางตำรวจภาค 3 และหากไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนอละญาติจะเข้าร้องเรียนกับทางกรมตำรวจแห่งชาติที่กรุงเทพฯ ในเร็วๆนี้ คนต้องหาความเป็นธรรมให้กับลูกของตนให้ได้ รับรองลูกของตนไม่ตายฟรีอย่างแน่นอน ลูกของตนไม่เคยดื่มเหล้าก็บอกว่าลูกของคนเมา ทางโรงพยาบาลก็ไม่ระบุว่า มีฤทธิ์แอลกอฮอล์ในร่างกายเลย และลูกของตนไม่ได้ขับย้อนศร ไฟหน้ารถของลูกของตน ก็ปกติสว่างเป็นปกติ แล้วว่า ลูกของตนไม่มีไฟหน้า ที่หน้ารถจักรยานยนต์ ซึ่งมันขัดกับความเป็นจริง ต้นจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด หาความเป็นธรรมให้กับลูกไม่ให้ตายฟรีอย่างแน่นอน

ทางด้าน พ.ต.อ.   นิติธร  แสงย้อย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร อำเภอปทุมราชวงศา กล่าวว่าตนติดต่อไกล่เกลี่ยแล้ว และยังตกลงกันไม่ได้ ทางญาติๆด้านผู้เสียชีวิตอยากจะได้เงินจำนวน 1 ล้าน 5 แสนบาท ทางตรงจะจ่ายให้ 6หมื่นบาท ขึ้นอยู่ในขั้นตอนการเจรจาอยู่ ส่วนเรื่องคดีนั้น ตนจะ ให้ความเป็นธรรม กับทั้งสองฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา

ภาพ-ข่าว/นายทิพกร  หวานอ่อน ผู้สื่อข่าวประจำจัวหวัดอำนาจเจริญ รายงาน