นายเอกสิทธิ์  รันตสุวรรณ  ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าอำนาจเจริญ  เปิดใจว่าการลักลอบตัดไม้กระยางนากว่า1,000ต้นตลอดเวลา1ปีแจ้งความร้องทุกข์114วันยังไม่มีความคืบหน้าหลายหน่วยงานยังไม่สามารถสรุปการสืบสวนสอบสวนได้ชาวบ้านมีข้อสงสัยกับการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ หลายอย่างเช่น มีไม้หายจริงมี การลักลอบตัดไม้ห่างจากบ้านเรือนคนแค่1,000เมตรการโอนเงินค่าไม้ก็เป็นหลักฐานได้ชาวบ้านคุยกันว่าจะร่วมกันบริจาคเงินเพื่อจ้างทนายฟ้องเจ้าหน้ารัฐที่มีส่วนราวมและกานเซ็นชื่อการปฎิบัติหน้าที่ ชาวบ้านคุยกันไปก็นึกเสียใจที่เสียภาษีแล้วยังต้องมาเสียเงินฟ้องร้องอีกเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมถ้าเป็นแบบนี้ประชาชนจะอยู่กันยังไง

เรื่องโครงการทำถนนงบมาจากจังหวัด-มาอำเภอ-มาตำบลสิริเสนางมีการตรวจสอบหรือไม่หรือมีการร่วมเช็นโดยใครบ้างทำไมถึงได้นำเครื่องจักรหนักเข้าบุกรุกทำลายทรัพย์สินสิ่งปลูกสร้างของชาวบ้าน ก่อนทำถนนต้นไม้และความอุดมสมบูรณ์ยังอยู่ครบหลังจากโครงการทำถนนเสร็จต้นไม้ก็ถูกตัดชาวบ้านที่เห็นต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต่างเสียดายพร้อมกับสาปแช่งคนที่ทำการรวมหัวกันตัดไม้ทำลายป่าในครั้งนี้

และที่สำคัญบรรดาแม่ค้าพ่อค้าในตลาดกลางอำเภอเสนางคนิคมติดกับศูนย์ราชการบอกว่ารถเทรลเลอร์หางยาวจะมาจอดพักกินข้าวเป็นประจำและจอดพักรถในรถมีไม้ขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเพราะไม่มีผ้าคุมแม่ค้าพ่อค้าบอกต่ออีกว่าได้ถามคนขับรถไม่กลัวถูกจับเหรอด้านคนขับรถบรรทุกบอกว่าไม่เป็นไรเคลียร์นายแล้วนี่คือเสียชาวบ้านพูดล่าสุดตนทราบว่าชาวบ้านที่โดนหลอกให้ขายไม้ในที่สาธารณะติดกับที่ดินของตนเองเตรียมลงขันเพื่อจ้างทนายสู้คดีเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากภาครัฐ

ทางด้านคุณยายสีบู  อายุ84ปี กล่าวว่าหากตนทราบว่าการขายไม้ยางในครั้งนี้มีความผิดแรกๆผู้ใหญ่บ้านก็ออกมาติดต่อประสานงานกับยายต่อจากนั้นก็มีป่าไม้ตามมาต้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรโดยผู้ใหญ่บ้านได้โน้มน้าวบอกว่าเดี๋ยวนี้เขาปลดล็อคกันแล้ว ต้นยางนาที่อยู่ในพื้นที่โฉนดหรือนส.3 สามารถขายได้และรวมถึงที่อยู่ตรงกับพื้นที่ของยายก็ขายได้เช่นกัน ส่วนอยู่ในพื้นที่ของยายในนส. 3 และโฉนดจริงๆนั้นมีอยู่แค่ 3-4 ต้นนอกนั้นอยู่ริมห้วยหมดรวมเป็น21ต้นเขาก็บอกว่าขายได้ตนก็ตกลงขายในราคาตกลงกันว่าราคา 60,000 บาท แล้วก็เมื่อตัดต้นยางเสร็จก็จ่ายให้ยายแค่ 28,000 บาทส่วนที่เหลือไม่เห็นจ่ายยายเลยจนถึงวันนี้ อีกอย่างในระยะนี้ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะตนอายุ 84 ปีแล้วไม่เคยขึ้นโรงขึ้นศาลไม่เคยที่จะโดนสอบสวน ถ้าต้นรู้ว่าตัดต้นไม้มันผิดตนไม่ขายแล้วตนไม่รู้จริงๆว่าไม้อยู่ตามริมคลองริมห้วยสาธารณะมันไม่ใช่ของยายยายไม่รู้จริงๆ เขามาบอกรวมๆว่าเป็นของยายหมดยายจึงหลงเชื่อ อย่างไรก็ตามยายให้พูดความจริงก็คือความจริงยายว่ายายไม่ผิดเพราะการมาซื้อไม้ในลักษณะตีรวมแบบนี้ มันเป็นการหลอกยายรู้ว่ามันผิดยายไม่ขายแน่นอน จึงขอความเป็นธรรมกับทางหน่วยราชการด้วยทุกวันนี้ตนกินไม่ได้นอนไม่หลับบวกกับอายุของตนก็ 84 ปีแล้วไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครวอนให้ภาครัฐสงสารคนแก่ด้วย

ทางด้าน นายทวีป  บุตรโพธิ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ ในขั้นตอนของการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่การพิสูจน์สิทธิ์ในที่ดินและปริมาตรไม้ที่ตัดยังไม่สามารถทำ เพราะการดำเนินคดีมันเกิดขึ้นหลังจากที่เขาตัดไม้ไปแล้ว  แต่อย่างไรก็ตามทางตำรวจก็จะพยามรวบรวมหลักฐานพยานในการดำเนินคดีกับผู้ทำผิดอยู่  ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงการที่ผู้สื่อข่าวถามว่าชาวบ้านที่ขายไม้โดยรู้เท่าไม่ถึงการต่างหวาดผวาว่าจะมีความผิดทางผู้ว่าตอบว่าเรื่องนี้หากไม่ผิดก็ไม่ต้องกังวนใจอะไรจงเขื่อมั่นในขบวนการ ยุติธรรมของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองและต้องไม่หวาดผวาว่าใครจะมาข่มขู่พี่น้องประชาชนได้ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างตรงไปตรงมาผิดก็ว่าไปตามผิดถูกก็ว่าไปตามถูกจะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นเด็ดขาด ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายบ้านเมืองจะอยู่เหนือกฎหมายไปไม่ได้เด็ดขาด/

ภาพ-ข่าว ทิพกร   หวานอ่อน  ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดอำนาจเจริญ  รายงาน