ที่ ด่านพรมแดนสะพานไทย – ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.พรชัย ชะลอเดช ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง ได้รับมอบตัวผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย นายพันธรัตน์ อายุ 18 ปี และนายจิราวุฒิ อายุ 26 ปี ในคดีปล้นฆ่าพ่อค้ารถหลุดจำนำ ที่จังหวัดขอนแก่น จาก พลจัตวาแก่นจัน  พมมะจัก รองหัวหน้ากรมใหญ่ตำรวจ กระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว

 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ต.ค.65 เวลาประมาณ 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุพบศพนายพนม ทิพย์รัตนมงคล อายุ 40 ปี สภาพศพอยู่ในลักษณะนอนหงาย มือซ้ายกำสร้อยคอรูปพรรณน้ำหนัก 1 บาท มือขวากำพระเลี่ยมทอง มีบาดแผลถูกยิงบริเวณด้านหลังทะลุหน้าอก 1 แผล พบรอยกระสุนปืนบริเวณโคนอวัยวะเพศ 2 แผล นอนเสียชีวิตบริเวณทางเข้าสนามบินขอนแก่น ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น  หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.ดำเนินการควบคุมการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และสะเทือนขวัญ

จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2565 นายพนมฯผู้เสียชีวิต  ได้เสนอขายรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กสีขาว ทะเบียน ขบ 2903 กทม.ซึ่งเป็นรถหลุดจำนำให้กับนายพันธรัตน์ฯ โดยมีการตกลงกันว่า จะโอนเงินมัดจำให้ก่อน 19,000 บาท แล้วจะจ่ายส่วนที่เหลือในวันรับรถ จากนั้นในวันเดียวกันได้มีการนัดมอบรถที่บริเวณปั๊มน้ำมัน อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด โดยนายพนมฯ ได้พาเพื่อนไปด้วย 2 คน ส่วนนายพันธรัตนฯไปกับนายจิราวุฒิฯ เมื่อพบกันแล้วทางฝ่ายนายพันธรัตน์ บอกว่า เงินสดไม่พอจ่าย จะโอนเงินจากลาวมาให้ในวันรุ่งขึ้น จึงเลื่อนการรับรถกันออกไป ต่อมานายพันธรัตนฯได้นัดให้นายพนมฯ เอารถไปให้ที่บริเวณทางเข้าสนามบินขอนแก่น ที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงสถานที่นัดส่งมอบรถ พบว่านายพันธรัตน์ฯ ไปพร้อมพวก 5 คน ได้มีการพูดคุยตกลงกัน นายพันธรัตนฯ ได้นำอาวุธปืนออกมาและยิงนายพนมฯ ซึ่งได้พยายามวิ่งหนี แต่ถูกยิง 3 นัด เสียชีวิตคาที่ นายพันธรัตน์ พร้อมพวก 5 คนได้นำรถกระบะของนายพนมฯ หลบหนี เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับ ผู้ต้องหา 5 ราย คือ นายพันธรัตน์ หรือ โก้ หาญสุรีย์ อายุ 18 ปี , นายจิราวุฒิ หรือเบนซ์ ทองสืบสาย อายุ 26 ปี นายธนพล หรือเอ็กซ์ วงษ์สมบูรณ์ อายุ 22 ปีนายเกียรติศักดิ์ หรือบาส จรัสกาย อายุ 26 ปี และ นายอภิชาต หรือฟิว ถะเกิงสุข อายุ 22 ปี โดยจะดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ ใช้ปีนยิงเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมนายธนพล,นายเกียรติศักดิ์ และนายอภิชาต ได้แล้ว   ส่วนนายพันธรัตน์ฯ และนายจิราวุฒิฯ ทางเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนทราบว่า ได้หลบหนีข้ามไปยัง สปป.ลาว จึงได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ทางการลาว  เพื่อขอความร่วมมือในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองราย จนสามารถติดตามจับกุมได้ และเจ้าหน้าที่ทางการลาว ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งมอบที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย เพื่อรับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป             

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ  เนื่องจากกลุ่มคนร้ายก่อเหตุอย่างอุกอาจโดยใช้อาวุธปืนยิงสังหารผู้ตายอย่างเหี้ยมโหดก่อนจะลักเอารถกระบะไป  ซึ่งจากการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ หลังจากที่จับกุมผู้ก่อเหตุที่หลบหนีในประเทศได้แล้ว ทราบว่ามีผู้ก่อเหตุหลบหนีไปยัง สปป.ลาว จึงได้มีการประสานขอความร่วมมือไปยังเจ้าหน้าที่ทางการ สปป.ลาว เพื่อช่วยในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ และนำกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยจนได้ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยและลาวที่พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกันในการปราบปรามอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในทั้งสองประเทศ จึงขอขอบคุณในความร่วมมือดังกล่าว  นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความเอาจริงเอาจังของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ความสนใจในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาแม้จะหนีไปต่างประเทศก็ตาม ถือเป็นการสร้างความมั่นใจในการทำงานของตำรวจในสายตาของประชาชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น:

ภาพ-ข่าว พันธลภ(ฤาษีลภ)แสงทอง-ปวีณา  จังหวัดหนองคาย